5 เหตุผล หุ้น Non Bank ขาขึ้นรอบใหญ่ 2568 | EP.157
5 เหตุผลที่ทำให้ หุ้น Non Bank ขาขึ้น ครั้งใหญ่ใน ปี 2568
อาจารย์ประพาส เบิร์ด ลงทุนกล้วยๆ
ในปี 2568 หุ้น Non Bank กำลังเป็นที่จับตามองในกลุ่มนักลงทุน เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนหลายด้านที่ช่วยผลักดันให้เกิดการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ในคลิป “5 เหตุผล หุ้น Non Bank ขาขึ้นรอบใหญ่ 2568 | EP.157″ อาจารย์ประพาส เบิร์ด ลงทุนกล้วยๆ ได้วิเคราะห์ถึง 5 ปัจจัยสำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงโอกาสครั้งใหญ่ในหุ้นกลุ่มนี้
1. ความต้องการสินเชื่อเพิ่มสูงขึ้น
เศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวหลังโควิด-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคและธุรกิจมีความต้องการสินเชื่อมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม หุ้นสินเชื่อ ส่วนบุคคล (Personal Loan) และสินเชื่อที่มีหลักประกัน เช่น รถยนต์และบ้าน
จากข้อมูลของ ธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่าการขอสินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 15% ในช่วงปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2568 นอกจากนี้ ตลาดสินเชื่อสำหรับ SMEs ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังต้องการเงินทุนหมุนเวียนก็เป็นโอกาสสำคัญที่ช่วยขยายพอร์ตของ หุ้น Non Bank ได้อย่างมหาศาล
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ MTC (เมืองไทย แคปปิตอล) และ SAWAD (ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น) ซึ่งเป็นผู้นำในสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ และกำลังขยายบริการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
2. อัตราดอกเบี้ยทรงตัว สร้างโอกาสในการทำกำไร
ในปี 2568 การคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางจะทรงตัวในระดับที่ไม่สูงเกินไป เป็นผลดีต่อธุรกิจ หุ้น Non Bank ซึ่งมักใช้เงินกู้จากธนาคารพาณิชย์หรือแหล่งทุนอื่นในการปล่อยสินเชื่อ
การที่ต้นทุนทางการเงินไม่เพิ่มขึ้นมาก ทำให้ หุ้น Non Bank สามารถคงอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่แข่งขันได้ ขณะที่ยังรักษากำไรในระดับสูง ยกตัวอย่างเช่น AEONTS (อิออน ธนสินทรัพย์) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่อง
นักวิเคราะห์มองว่า หากอัตราดอกเบี้ยทรงตัวในระดับนี้ต่อไปอีก 2-3 ปี หุ้น Non Bank จะเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์สูงสุดในแง่ของกำไรสุทธิ
3. การพัฒนาช่องทางการปล่อยสินเชื่อ
บริษัท หุ้น Non Bank หลายแห่งกำลังลงทุนอย่างหนักในเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาช่องทางการปล่อยสินเชื่อที่ทันสมัย ตัวอย่างเช่น การปล่อยสินเชื่อผ่านแอปพลิเคชันมือถือที่ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า
หนึ่งในตัวอย่างที่น่าสนใจคือ TIDLOR (เงินติดล้อ) ซึ่งได้พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อให้ลูกค้าสามารถขอสินเชื่อออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเดินทางไปยังสาขา เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มความเร็วในการอนุมัติสินเชื่อ
นอกจากนี้ การใช้ AI และ Big Data ในการประเมินเครดิตลูกค้าช่วยลดความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อที่ไม่มีคุณภาพ และทำให้บริษัทสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. การจัดการหนี้เสีย (NPL) ที่มีประสิทธิภาพ
หนี้เสีย (Non-Performing Loan หรือ NPL) เป็นปัญหาใหญ่ของธุรกิจสินเชื่อ แต่ หุ้น Non Bank หลายแห่งได้พัฒนากลยุทธ์ใหม่ๆ ในการลดความเสี่ยง เช่น
- การปรับโครงสร้างหนี้: ช่วยให้ลูกค้ามีภาระดอกเบี้ยที่ลดลงและสามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
- การเจรจาลดหนี้: สำหรับลูกค้าที่ประสบปัญหาทางการเงิน บริษัทอาจเสนอลดภาระดอกเบี้ยเพื่อเพิ่มโอกาสในการคืนเงินต้น
การใช้ระบบติดตามหนี้อัตโนมัติที่เชื่อมต่อกับฐานข้อมูลลูกค้าแบบเรียลไทม์ ทำให้บริษัทสามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวของลูกค้าและลดความเสี่ยงในการเกิดหนี้เสีย
5. การขยายฐานลูกค้าในตลาดใหม่
อีกหนึ่งโอกาสสำคัญของ หุ้น Non Bank คือการขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดใหม่ๆ เช่น
- ตลาดต่างประเทศ: บริษัทอย่าง SAWAD และ MTC เริ่มเจาะตลาดเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา ลาว และกัมพูชา ซึ่งมีความต้องการสินเชื่อสูง
- กลุ่มลูกค้าที่ไม่สามารถเข้าถึงธนาคาร (Unbanked และ Underbanked): หุ้น Non Bank ใช้ความคล่องตัวและช่องทางดิจิทัลเพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ SINGER (ซิงเกอร์) ซึ่งมีการปล่อยสินเชื่อสำหรับการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าอุปโภคบริโภคในพื้นที่ห่างไกล
คำแนะนำสำหรับนักลงทุนใน หุ้น Non Bank
- ศึกษาข้อมูลพื้นฐานของบริษัท
- ดูอัตราการเติบโตของรายได้ และการจัดการ NPL
- ติดตามสถานการณ์ดอกเบี้ย
- หากดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำ หุ้น Non Bank จะมีความได้เปรียบสูง
- วางแผนการลงทุนระยะยาว
- หุ้น Non Bank มีความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจ ดังนั้น การเลือกลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีเป็นสิ่งสำคัญ
สรุป
หุ้น Non Bank ในปี 2568 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในธุรกิจสินเชื่อที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยสนับสนุนทั้งในด้านความต้องการสินเชื่อ อัตราดอกเบี้ยที่เอื้ออำนวย และการขยายฐานลูกค้าในตลาดใหม่ การศึกษาแนวโน้มของธุรกิจและข้อมูลพื้นฐานของบริษัทเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด