Forum
อ้างอิงจากสเอกสารประกอบการสอน Bananas Investment Day 2 - Appendix อยากทราบว่า
1) นี่คือข้อมูล "ขั้นต่ำ" ที่ต้องเก็บรึป่าวคับ หรือมีข้อมูลอื่นที่ต้องเก็บนอกเหนือจากนี้คับ
2) บางข้อมูล บริษัทฯไม่ได้ให้ข้อมูล ทั้งผ่าน MD&A, 56-1, Opp day ได้แก่ รายได้ต่อสาขา, TSSG, ARPU, ปริมาณลูกค้าต่อวัน ต่อสาขา, รายได้ต่อตร.ม. อย่างนี้ เราสามารถคำนวนเองได้มั้ยคับ แล้วคำนวณยังไงให้เหมาะสมครับ
3) เมื่อได้ข้อมูลดังกล่าวครบถ้วน อยากทราบว่าเวลาวิเคราะห์หุ้นค้าปลีก ข้อมูลดังกล่าวเชื่อมโยงกันหรือไม่อย่างไรคับ เพราะผมคิดว่าแม้ว่าผมจะเก็บข้อมูลมาครบตาม List นี้ แต่ไม่รู้ว่านำมาทำ Financial Projection ยังไงดี เพราะมันเยอะ ทำให้สับสนครับ
**อ้างอิง Industrial Key Factors บนเอกสารประกอบการสอน มีดังนี้
•การขยายสาขา
•รายได้ต่อสาขา
•TSSG (Total Store Sales Growth)
•SSSG (Same Store Sales Growth)
•ARPU (Average Revenue Per Units)
•ปริมาณลูกค้าต่อวัน ต่อสาขา
•รายได้ต่อตร.ม.
•รายได้รวม = รายได้ต่อสาขา (P) x จานวนสาขา (Q), รายได้ต่อบิลล์ (P) x จานวนบิลล์ (Q)
อ้างอิงจากสเอกสารประกอบการสอน Bananas Investment Day 2 - Appendix อยากทราบว่า
1) นี่คือข้อมูล "ขั้นต่ำ" ที่ต้องเก็บรึป่าวคับ หรือมีข้อมูลอื่นที่ต้องเก็บนอกเหนือจากนี้คับ
2) บางข้อมูล บริษัทฯไม่ได้ให้ข้อมูล ทั้งผ่าน MD&A, 56-1, Opp day ได้แก่ รายได้ต่อสาขา, TSSG, ARPU, ปริมาณลูกค้าต่อวัน ต่อสาขา, รายได้ต่อตร.ม. อย่างนี้ เราสามารถคำนวนเองได้มั้ยคับ แล้วคำนวณยังไงให้เหมาะสมครับ
3) เมื่อได้ข้อมูลดังกล่าวครบถ้วน อยากทราบว่าเวลาวิเคราะห์หุ้นค้าปลีก ข้อมูลดังกล่าวเชื่อมโยงกันหรือไม่อย่างไรคับ เพราะผมคิดว่าแม้ว่าผมจะเก็บข้อมูลมาครบตาม List นี้ แต่ไม่รู้ว่านำมาทำ Financial Projection ยังไงดี เพราะมันเยอะ ทำให้สับสนครับ
**อ้างอิง Industrial Key Factors บนเอกสารประกอบการสอน มีดังนี้
•การขยายสาขา
•รายได้ต่อสาขา
•TSSG (Total Store Sales Growth)
•SSSG (Same Store Sales Growth)
•ARPU (Average Revenue Per Units)
•ปริมาณลูกค้าต่อวัน ต่อสาขา
•รายได้ต่อตร.ม.
•รายได้รวม = รายได้ต่อสาขา (P) x จานวนสาขา (Q), รายได้ต่อบิลล์ (P) x จานวนบิลล์ (Q)
1. ใช่ครับนี่คือข้อมูลเบื้องต้นที่ต้องเก็บ แต่บางอย่างก็อาจเก็บไม่ได้เพราะบริษัทไม่ได้เก็บได้ครับ เช่น รายได้ต่อ ตรม. ไรงี้
2. คำนวณเองยากครับ เพราะข้อมูลไม่ครบ ส่วนใหญ๋ถ้าเค้าไม่ได้ให้ข้อมูล เราถามเอาเองครับ
3. เราต้องเข้าใจว่าตัวเลขแต่ละตัวมีเพื่ออะไร และมันเชื่อมโยงกับรายได้สุดครับ เช่น TSSG = SSSG + New Store Revenue ครับ จะทำให้เรารู้ว่ารายได้จะเดิบโตเท่าไหร่จากสูตรนี้ครับ
@prapas-b88 ขออนุญาตสอบถามเพิ่มเติมครับ เนื่องจากอัตราส่วนทางการเงินมีเยอะครับ อยากทราบว่าการวิเคราะห์หุ้นค้าปลีก เราควรให้ความสำคัญกับอัตราส่วนไหนเป็นสำคัญครับ แล้วอัตราส่วนไหนสำหรับเทียบคับธุรกิจในอุตสาหกรรมค้าปลีกด้วยกันครับ
ขอบคุณครับ
@prapas-b88 ขออนุญาตสอบถามเพิ่มเติมครับ เนื่องจากอัตราส่วนทางการเงินมีเยอะครับ อยากทราบว่าการวิเคราะห์หุ้นค้าปลีก เราควรให้ความสำคัญกับอัตราส่วนไหนเป็นสำคัญครับ แล้วอัตราส่วนไหนสำหรับเทียบคับธุรกิจในอุตสาหกรรมค้าปลีกด้วยกันครับ
ขอบคุณครับ
เอาจริงมันก็สำคัญกันคนละแบบไปหมดเลยครับ
มันขึ้นอยู่กับว่า เราจะหาข้อมูลอะไรได้บ้าง เราก็ใช้ข้อมูลเท่าที่เราได้มาครับ
ใจความสำคัญของข้อมูล Breakdown ก็เพื่อให้เรา
1. เข้าใจธุรกิจเชิงลึกมากขึ้น ดังนั้น Breakdown เยอะสุดเท่าที่เค้าจะยอมให้เรา
2. คาดการณ์อนาคต ดังนั้นเราต้องเข้าใจธุรกิจว่า อะไรมีผลต่องบการเงินทุกงบ ทั้งงบดุล, งบกำไร, กระแสเงินสด
เรียนตามตรงนะครับวิธีการพัฒนาตัวเอง ไม่ใช่ถามแบบนี้เลยครับ ไม่มีประโยชน์เลย
เราพยายามจะ "ท่องจำ" มากกว่าจะทำความ "เข้าใจ" ธุรกิจอ่ะครับ
ทีนี้ การที่จะเข้าใจกิจการได้ มันไม่ใช่นั่งอยู่หน้าคอมฯ อ่านงบการเงินอย่างเดียว
มันต้องฝึกฝน ทำหลายๆบริษัท บริษัทเดียวกันก็หลายๆรอบ (ในแต่ละไตรมาส)
สังเกตคำถามในทุกๆบริษัทที่เป็นค้าปลีก มันจะได้ยิน "ตัวแปร" ที่ใหม่เมื่อไหร่
เราก็ Find out ว่ามันสำคัญยังไง แล้วก็นำไปใช้กับธุรกิจอื่น เราก็จะเก่งขึ้นๆ
มันไม่ได้มีสูตรสำเร็จให้ท่องแบบนั้นอ่ะครับ มันเป็นการ "ประยุกต์" การใช้งานตามสถานการณ์อ่ะครับ
Ratio เดียวกันก็ไม่ได้สำคัญกับทุกธุรกิจในอุตสาหกรรมนะครับ แต่ละธุรกิจมันเป็น Uniqueness มากๆ
VI เลยเรียกสิ่งนี้ว่่าการทำ Bottom up แต่คำถามเราคือ "อุตสาหกรรมค้าปลีก" ซึ่งมันคือการ Top-down
แนวคิดมันก็เลยผิดครับ เราพยายามจะทำความเข้าใจทีละธุรกิจ 1 by 1 จนเข้าใจภาพรวมครับ
ไม่ใช่เข้าใจภาพรวมก่อนแล้วค่อย 1 by 1
การที่ financial ratio มีเยอะ มันไม่ได้มีเพื่อให้ท่องว่ามันคืออะไรครับ
มันมีไว้เพื่อทำความเข้าใจธุรกิจเราว่า ratio ตัวไหนจะสำคัญกับธุรกิจนี้ต่างหาก
เพิ่มเติมนะครับ ส่วนตัวคิดว่ากำลังผิดทางมากๆเลยครับ
เราพยายามจะเน้น Quantitative มากกว่า Qualitative
ซึ่ง Quantitative เป็น "ผลลัพธ์" ของ Qualitative รึเปล่าครับ
ออกไป cv ด้วยกัน บ่อยๆ ฟังคำถามบ่อยๆ สงสัยจุดไหนก็หาคำตอบว่าทำไมแต่ละคนถึงถามแบบนั้น
เค้ารู้อะไรที่เราไม่รู้ หัวใจของการลงทุนไม่ใช่ Focus ที่ตัวเลข "ผลลัพธ์" แต่คือการหา "เหตุ" ที่จะทำให้เกิด "ผลลัพธ์" ครับ
