Hot Topic

ด่วน! ค่าเงินบาทแข็งโป๊ก กระทบหุ้นกลุ่มไหนบ้าง? | Hot Topic EP.23

เจาะลึกผลกระทบ ค่าเงินบาทแข็ง ต่อ หุ้นไทย และ เศรษฐกิจ

อัปเดตสถานการณ์ เงินบาทแข็งค่า ล่าสุดแข็งโป๊กสุดในรอบ 14 ปี

ปัจจุบัน ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องและหนักหน่วง โดยล่าสุดแตะระดับ 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แล้ว นับเป็นการแข็งค่ามากที่สุดในรอบประมาณ 14 ปี ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับช่วงที่เคยอ่อนค่าไปถึง 35-36 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทแข็งค่าเกิดจากอะไร? สรุป 2 สาเหตุหลักที่ต้องรู้

อาจารย์ประพาสได้อธิบายถึงสาเหตุหลักที่ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่า โดยชี้ว่าปัจจัยสำคัญมาจากภายนอกประเทศเป็นหลัก

  1. ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง เมื่อค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ค่าเงินบาทของเราก็จะแข็งค่าขึ้นโดยอัตโนมัติ การอ่อนค่าของดอลลาร์อาจมาจากปัญหาสภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐฯ เช่น ความกังวลเรื่องภาวะถดถอย (recession) หรือผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งในยุโรป
  2. ราคาทองคำที่สูงขึ้น ราคาทองคำที่พุ่งสูงขึ้นเป็นผลมาจากความต้องการซื้อทองคำที่มากกว่าปกติ ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกไม่แน่นอนหรือมีความเสี่ยงจากสงคราม ทองคำมักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนเลือกพักเงินไว้ ความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นนี้เองที่มีผลเชื่อมโยงกับค่าเงินของเราด้วย

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังถูกมองว่าเป็นเหมือน “ที่พักเงิน” (Safe Haven) ชั้นดี เนื่องจากไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในระดับโลกมากนัก นักลงทุนต่างชาติจึงอาจมองว่าหุ้นไทยในขณะนี้มีราคาถูกเมื่อเทียบกับตลาดเอเชียอื่นๆ ทำให้เกิดการไหลเข้าของเงินลงทุนเพื่อพักเงิน ซึ่งส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นโดยตรง นักลงทุนที่เข้ามาในช่วงที่ราคาหุ้นต่ำจึงอาจได้ประโยชน์สองต่อ คือกำไรจากราคาหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้น และประโยชน์จากค่าเงินที่แข็งค่าขึ้นเมื่อแปลงเงินลงทุนกลับเป็นดอลลาร์ในอนาคต

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เองก็เชื่อว่าการแข็งค่าของเงินบาทเป็นผลมาจากปัจจัยภายนอกมากกว่าภายในประเทศ และพยายามเข้าควบคุมกระแสเงินทุนเพื่อให้เกิดความสมดุล

จุดสมดุลค่าเงินบาท ที่เหมาะสมควรเป็นเท่าไหร่?

เบิร์ดได้ตั้งคำถามถึงจุดสมดุลที่เหมาะสมของค่าเงินบาท ซึ่งอาจารย์ประพาสชี้ว่า ไม่มีจุดสมดุลที่ตายตัวหรือแน่นอน แต่ปัจจัยสำคัญคือ ความไม่ผันผวน ของค่าเงิน หากค่าเงินมีเสถียรภาพและไม่ผันผวนมาก บริษัทนำเข้าส่งออกจะสามารถบริหารจัดการต้นทุนและวางแผนธุรกิจได้ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากค่าเงินเอียงไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ก็จะมีกลุ่มที่ได้ประโยชน์และกลุ่มที่เสียประโยชน์ ธปท. เคยพูดถึงกรอบที่เหมาะสมของค่าเงินบาทไว้ที่ประมาณ 33-35 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่ช่วยให้ทั้งผู้ส่งออกและผู้นำเข้ายังคงสามารถแข่งขันได้ หากค่าเงินอ่อนค่าเกิน 35 บาท/ดอลลาร์ ผู้ส่งออกก็จะมีความสุข ในขณะที่ราคาสินค้าในประเทศจะแพงขึ้น

เงินบาทแข็ง vs เงินบาทอ่อน คืออะไร? สรุปเข้าใจง่ายสำหรับนักลงทุน

เพื่อให้มือใหม่เข้าใจง่ายขึ้น อาจารย์ประพาสและเบิร์ดได้อธิบายความหมายของ “บาทอ่อน” และ “บาทแข็ง

  • บาทอ่อน เราต้องใช้เงินบาทจำนวนมากขึ้นในการแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ
  • บาทแข็ง เราใช้เงินบาทจำนวนน้อยลงในการแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นผลจากความต้องการเงินบาทที่เพิ่มขึ้น

ผลกระทบเงินบาทแข็ง ใครเสียประโยชน์? ส่องธุรกิจส่งออกและท่องเที่ยว

การแข็งค่าของเงินบาทส่งผลกระทบโดยตรงและรุนแรงต่อหลายภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่พึ่งพารายได้จากการส่งออกและการท่องเที่ยว

1. กลุ่มธุรกิจส่งออก (ได้รับผลกระทบหนักที่สุด)

นี่คือกลุ่มที่ได้รับผลกระทบทางตรงและหนักที่สุด อาจารย์ประพาสยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจน

  • สมมติธุรกิจมีต้นทุน 25 บาทต่อสินค้า 1 ชิ้น และขายได้ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ
  • เมื่อบาทอ่อนที่ 35 บาท/ดอลลาร์ ธุรกิจจะได้รายได้ 35 บาทต่อชิ้น มีกำไร 10 บาท
  • เมื่อบาทแข็งที่ 31 บาท/ดอลลาร์ ต้นทุนยังคง 25 บาทเท่าเดิม แต่รายได้จาก 1 ดอลลาร์ลดลงเหลือ 31 บาท ทำให้กำไรลดลงเหลือเพียง 6 บาท ซึ่งหมายถึง กำไรลดลงถึง 80%
  • ผลกระทบนี้จะรุนแรงเป็นพิเศษกับผู้ส่งออกที่มีอำนาจต่อรองน้อย เช่น กลุ่ม OEM

2. ภาคการท่องเที่ยว (ต้นทุนนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงขึ้น)

ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นก็ส่งผลกระทบเชิงลบต่อการท่องเที่ยวเช่นกัน โดยทำให้การมาเที่ยวประเทศไทยแพงขึ้นสำหรับชาวต่างชาติ ซึ่งอาจทำให้พวกเขาเปลี่ยนไปประเทศใกล้เคียงที่ค่าครองชีพถูกกว่าแทน

หุ้นได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็ง เจาะลึก กลุ่มนำเข้า ที่ยิ้มรับ

ในทางกลับกัน การแข็งค่าของเงินบาทก็เป็นผลดีต่อบางกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มนำเข้า

1. กลุ่มธุรกิจนำเข้า (ต้นทุนลด กำไรเพิ่ม)

บริษัทที่นำเข้าสินค้าจะได้รับประโยชน์อย่างมาก เพราะต้นทุนการนำเข้าลดลง ซึ่งสามารถเพิ่มกำไรหรือลดราคาสู้กับคู่แข่งได้

  • ตัวอย่างธุรกิจที่ได้ประโยชน์ โทรศัพท์มือถือ, น้ำมัน, สินค้าโภคภัณฑ์
  • หุ้น KCG ผู้นำเข้า Butter Oil 100%
  • หุ้น NEO ผู้นำเข้าสารลดแรงตึงผิว
  • ร้านอาหาร ผู้นำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ เช่น แซลมอน, เนื้อวัว

บทบาท ธปท. และภาครัฐต่อปัญหา เงินบาทแข็งค่า

อาจารย์ประพาสเชื่อว่าค่าเงินบาทที่แข็งค่าอาจกินเวลานานเป็นปี ภาครัฐและธนาคารแห่งประเทศไทยจึงจำเป็นต้องเข้าแทรกแซงเพื่อควบคุมสถานการณ์ เพราะกระทบต่อภาคส่งออกและท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ หากปล่อยให้การส่งออกลดลง แต่การนำเข้าเพิ่มขึ้น อาจทำให้เศรษฐกิจไทยถดถอยได้

กลยุทธ์ธุรกิจส่งออก วิธีรับมือและปรับตัวช่วง เงินบาทแข็ง

จากประสบการณ์ของอาจารย์ประพาส บริษัทส่งออกมักจะบริหารจัดการสถานการณ์ค่าเงินบาทแข็งค่าด้วยวิธีต่างๆ

  1. ตามน้ำ (Go with the flow) ในช่วงแรกอาจทำอะไรไม่ได้มากนัก
  2. ขอขึ้นราคา เจรจากับลูกค้าเพื่อชดเชยต้นทุน
  3. ลดต้นทุน บริหารจัดการค่าใช้จ่ายภายใน
  4. ซื้อ Forward ทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Forward Contract) เพื่อล็อกเรทเงินไว้

กลยุทธ์ลงทุน ช่วงเงินบาทแข็ง ควร ซื้อหรือขายหุ้น กลุ่มไหน?

สำหรับนักลงทุน อาจารย์ประพาสและเบิร์ด จากช่องลงทุนกล้วยๆ ได้ให้ข้อคิดเห็นและกลยุทธ์ลงทุนที่สำคัญ

  • ราคาหุ้นสะท้อนไปแล้ว อย่าเพิ่งรีบซื้อหุ้นกลุ่มนำเข้าเพียงเพราะเห็นข่าวเงินบาทแข็ง เพราะราคาอาจจะขึ้นไปรอแล้ว
  • ต้อง “Go Deep” ทำการบ้านให้หนักว่าราคาหุ้นที่ขึ้นไป สมเหตุสมผลกับประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับจริงหรือไม่
  • มองหาโอกาสในวัฏจักร
    • หุ้นกลุ่มนำเข้า หากราคาขึ้นมาสูง อาจเป็นจังหวะพิจารณา “Take Profit” (ขายทำกำไร)
    • หุ้นกลุ่มส่งออก เมื่อราคาปรับตัวลดลงเพราะเสียประโยชน์จากค่าเงินที่แข็งค่า อาจเป็นจังหวะที่ดีในการ “ซื้อสะสม” สำหรับการลงทุนระยะยาว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Protected by CleanTalk Anti-Spam