#หั่นเก่งงง!!! IMF หั่นเป้าเศรษฐกิจโลก จาก -3.0% เป็น -4.9%!!!
#หั่นเก่งงง!!! IMF หั่นเป้าเศรษฐกิจโลก จาก -3.0% เป็น -4.9%!!!

เมื่อคืนนี้ (24 มิย. 63) IMF ได้ประกาศรายงานเศรษฐกิจโลกประจำเดือน มิย.
ติดๆกันกับการประกาศของทาง ธปท. บ้านเราเลย เรียกว่าช่วงนี้นักลงทุนงานชุกเลยครับ
#ลงทุนกล้วยๆจะมาสรุปให้เพื่อนๆทราบกันครับ
1. เปิดหัวรายงานด้วยการปรับลดการเติบโตเศรษฐกิจโลกก่อนเลยครับ จากเดิม -3.0% เมื่อตอนรายงานเดือนเมษายนที่ผ่านมา (ซึ่งเราก็ได้อัพเดทไปแล้ว) เป็น -4.9% ในปีนี้ (2020) หดตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากผลกระทบของ COVID-19 ที่หนักกว่าที่คาดครับ
2. ปรับลดการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีหน้า (2021) จากเดิมคาดว่าจะโต 5.8% ปรับลดเป็น 5.4%
3. (รูปที่ 2) จากกราฟ เราจะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจจะต่ำที่สุดในไตรมาสที่ 2 นี่เอง นำโดยกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว (Advanced Country) ตามมาด้วยกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ซึ่งรวมไทยด้วย ซึ่งตรงข้ามกับจีนที่เจอวิกฤตก่อนคนอื่น แต่สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วแบกเศรษฐกิจโลกให้ติดลบเพียง -4.9% ในปีนี้ (คาดการณ์)
Tips | ในอดีตไทยนับเป็น Developing Country หรือประเทศกำลังพัฒนานะครับ
หลังๆมานี่เค้าเปลี่ยนให้เราเป็น Emerging Market แทน ไม่รู้ว่าเพราะเห็นเราพัฒนาไม่ไปไหนซักทีรึเปล่า 555 ขำๆนะคร้าบ ถ้าเพื่อนๆคนไหนทราบเหตุผลก็ช่วยแชร์ทีนะครับ ขอบคุณครับ
4. (รูปที่ 3) จากตารางเราจะเห็นว่า ในปีนี้ 2020 ประเทศพัฒนาแล้ว มี GDP ติดลบสูงมากๆนำโดย
– USA -8.0%
– Germany -7.8%
– France -12.5%
– Italy -12.8%
– Spain -12.8%
และกลุ่ม Latin America ก็ติดลบกันไม่น้อยนะครับ สูงถึง -9.4%
Tips | ส่วนไทยเอง ธปท. ก็รายงานคาดการณ์เมื่อวานนี้ที่ -8.1% เนื่องจากไทยพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงถึงประมาณ 2 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 12% ต่อ GDP รวมนั่นเอง
5. (รูปที่ 4) สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมในรายงานนี้ก็คือ ทาง IMF ได้ประเมินสถานการณ์ในปี 2021 ไว้ 2 รูปแบบครับ คือ
5.1 อาจมีการแพร่ระบาดของ COVID-19 อีกรอบในช่วงต้นปี 2021 (เส้นกราฟสีแดง)
5.2 เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ตามคาดการณ์ในช่วงต้นรายงานครับ (เส้นกราฟสีฟ้า)
ซึ่งจะเห็นได้ว่า หากเจอการแพร่ระบาดอีกรอบเศรษฐกิจโลกคงจะมีปัญหาหนักมากแน่ๆ และการฟื้นตัวจะยากมากขึ้นเยอะเลยครับ IMF ถึงกับประเมินว่าเศรษฐกิจโลกจะหดตัวต่อเนื่องไปอีกหลายปีเลยครับ
6. (รูปที่ 5) รูปสุดท้าย เป็นการแสดงข้อมูลที่น่าสนใจ 2 อย่างครับ นั่นคือ
6.1 หนี้สาธารณะ (สีน้ำเงิน) แสดงให้เห็นว่าในปีนี้รัฐบาลทั่วโลกสร้างหนี้สูงถึง 18.7% ต่อ GDP สูงกว่าตอนช่วงวิกฤต Subprime ถึงเกือบ 2 เท่าครับ
6.2 ดุลการคลัง (สีแดง) ซึ่งจะขาดดุลสูงถึง -10% ต่อ GDP มากกว่าตอนวิกฤต Subprime ถึง 2 เท่าครับ
ที่มา | IMF
—————————————
#สรุปในฐานะนักลงทุนVI
ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีปัญหา
และเรายังมองอนาคตระยะสั้นไม่ออกว่าจะเป็นแบบไหน
ซึ่งผมเชื่อว่าไม่มีใครในโลกนี้สามารถคาดเดาได้ถูกต้องหรอกครับ เพราะอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิดเสมอ
ดังนั้น นักลงทุน VI อย่างเราๆ
จึงมองข้ามเหตุการณ์ระยะสั้น
มองไปยังอนาคตที่ไกลขึ้น 3-5 ปี มองหาธุรกิจที่จะสามารถ ดำเนินกิจการไปต่อได้โดยได้รับผลกระทบจำกัด
และที่สำคัญมากก็คือ การมี “สติ” “เหตุผล” อยู่เหนือ “อารมณ์” ปฏิบัติตามวินัยการลงทุนอย่างเคร่งครัด เมื่อราคาหุ้นที่ดีลงมาจนมี MOS มากพอ สิ่งที่เราควรทำก็คือ “เข้าลงทุน” ครับ
#ลงทุนกล้วยๆขอเป็นกำลังใจให้นักลงทุนทุกท่านลงทุนอย่างมีสติและพอร์ตเติบโตในระยะยาว เกษียณได้ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ทุกคนครับ