สรุปงบ หุ้น MEGA ไตรมาส 1/2566

#สรุปงบการเงิน

#MEGA #Q1Y2023

#หุ้นยาอาหารเสริมเข้าถึงผู้คนเติบโตสู่ระดับโลก

————————————————————————–

· Revenue 3,737 -2.2% แยกตามหน่วยธุรกิจดังนี้

– Mega We Care 1,954 -0.1%

– Maxxcare (Distribution) 1,720 -4.0% โดยเสียลูกค้ารายหนึ่งในประเทศเมียนมาร์

– OEM 59 -24.9%

· และแบ่งรายได้ของการขายผลิตภัณฑ์ Mega We Care ได้ดังนี้

– Southeast Asia +1519 +0.5%

– Africa +230 +5.6%

– Others 202 -9.1%

– ทำให้รายได้ของผลิตภัณฑ์เติบโตในทวีปแอฟริกาซึ่งมาชดเชยยอดขายรายประเทศอื่นทำให้รายได้ออกมาทรงตัว

· GP 1,635 -4.6%

– Mega we Care GPM 64.6%

– เป็นกำไรขั้นต้นที่ระดับปกติของบริษัท

– Maxxcare GPM 20.4%

– Average GPM 43.7%

· SG&A 1,027 +3.9% สัดส่วน 27.4%

– ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารยังรักษาได้ดีกว่าไตรมาสที่แล้วและค่าเฉลี่ยทั้งปีทั้ง ๆยอดขายลดลง

· Net Profit 453 -26.2%

– ลดลงมากมาจากสาเหตุการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงเนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าในไตรมาส 1 และอัตรากำไรขั้นต้นของ Mega We Care ที่สูงมากกว่าปกติในปีที่แล้ว

————————————————————————–

Q&A จาก Opportunity Day

————————————————————————–

· บริษัทคาดว่าการที่มีคนติดโควิดมากขึ้นในไตรมาส 2 อาจจะไม่ได้เป็นประโยชน์มากนักเพราะคนอาจจะชินแล้วไม่มีการระเบิดแบบครั้งที่ผ่านๆมา แต่อาจจะเป็นเครื่องกระตุ้นสำหรับคนให้รักสุขภาพมากขึ้น

· Worst Caseของธุรกิจในเมียนมาร์คือการที่เศรษฐกิจประเทศไม่โตคนออกไปจับจ่ายใช้สอยไม่ได้บริษัทไม่คาดว่าจะถูกยึดโดยภาครัฐ ส่วนโอกาสจะเติบโตของรายได้อาจจะลดลงเพราะการมีปัญหาในประเทศจะทำให้ GDP ไม่โต อย่างไรก็ตามธุรกิจของบริษัทเป็นสินค้าจำเป็น

· บริษัทไม่ให้ความเห็นกับการที่ Blackmore ที่จะถูกซื้อกิจการแต่บริษัทให้ความเห็นว่าบริษัทยังมีจุดแข็งที่บริษัทมีรายได้ส่วนอื่นที่ทำยาสามัญมิได้ทำแต่ยาอาหารเสริมอย่างเดียว

· บริษัทคาดว่ารายได้ในไตรมาสหนึ่ง รายได้ที่ลูกค้ามาซื้อกินเผื่อติดโควิดมีสัดส่วนที่น้อยแล้ว รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่จะออกมาเพื่อโควิดมีน้อยแล้ว

· สัดส่วนการขายยา 40:60 อาหารเสริม

· ระดับรายได้ของ Maxxcare บริษัทคาดว่ารายได้จะสามารถคงระดับและดีขึ้นต่อไป

· การขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนบริษัทมองว่าไม่มีนัยสำคัญกับบริษัทเนื่องจากมีสัดส่วนประมาณ 1% ของรายได้

· การเสียที่ลูกค้าในเมียนมาร์เกิดจากบริษัทนั้นได้ตัดสินใจไม่ทำธุรกิจต่อแล้ว

————————————————————————–

สรุป

————————————————————————–

· พื้นฐานของธุรกิจค่อนข้างมีความแข็งแกร่งเนื่องด้วยสินค้ามีความจำเป็นในการดำรงชีวิต

· การที่บริษัทอาจจะมีอุปสรรคในการเติบโตบ้างเพราะการมีโควิดทำให้เกิดการกระตุ้นให้พฤติกรรมของคนมีการรักสุขภาพมากขึ้นและอาจจะมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับโควิดขายได้เป็นสินค้าพิเศษขึ้นมา แต่อย่างไรก็ตามโควิดก็ทำให้เกิดพฤติกรรมใหม่ (New Normal) ขึ้นมา คือเรื่องการรักษาสุขภาพ

· การสูญเสียลูกค้าตามที่บริษัทแจ้งมาเกิดจากปัจจัยรายธุรกิจที่ไม่สามารถทำธุรกิจต่อได้ทำให้สูญเสียลูกค้าไป

————————————————————————–

“การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนลงทุน”

สรุปโดย ลงทุนกล้วยๆ