สรุปงบการเงิน และ Oppday หุ้น HLไตรมาส 3/2567
📣 ดูเวอร์ชั่นเต็มคลิก : https://bit.ly/3ZMz1gn (ลงทุนกล้วยๆ)
#สรุปงบการเงิน + Opportunity Day
#หุ้นร้านขายยายอดขายเติบโตลดเป้าขยายสาขาคุมค่าใช้จ่ายเน้นกำไรเติบโต
————————————————————————–
· Sales Revenue 503.20 +22.5% แบ่งตามประเภทสินค้า
– Professional (ยาและอาหารเสริม) 345.91 +20.6%
– Home (อุปกรณ์การแพทย์) 69.28 +19.6%
– Personal (สินค้าใช้ภายนอกร่างกาย) 58.73 +37.6%
– Medical Food (อาหารทางการแพทย์) 29.28 +25.4%
* รายละเอียดอื่นๆเกี่ยวกับยอดขาย
– Same Store Sale growth 10.0%
– Sale per Ticket 458 บาท
– Ticket Per Day 11,809
– มีสาขา ณ สิ้นไตรมาสสอง 61 สาขา
– รายได้เติบโตขึ้นในทุกกลุ่มสินค้าโดยเฉพาะกลุ่มPersonal Healthcareที่เป็นกลุ่มเกี่ยวกับสินค้าอุปโภค เวชสำอาง,สกินแคร์ต่างๆ โตขึ้นถึง +37.6% ซึ่งเป็นไปตามนโยบายระยะยาวของบริษัทที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนในสินค้ากลุ่มนี้
· Gross Profit 117.12 +26.1% GPM 23.27%
– กำไรขั้นต้นจากเพิ่มขึ้นตามยอดขายที่เพิ่มขึ้นรวมถึงสินค้ากลุ่มPersonal Healthcare ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยมีการเติบโตมากกว่ากลุ่มอื่น
· SG&A 105.01 +33.1% SG&A to Sales 20.51%
– ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายบุคลากร ค่าเช่า ค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้นเกิดจากการเปิดสาขาเพิ่มขึ้นเยอะ ในส่วนของค่าใช้จ่ายบริหารเพิ่มเล็กน้อยกว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้นแต่ค่าใช้จ่ายยังมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากสาขาที่เปิดขึ้นเยอะ
· Net Profit 16.77 +3.4% NPM 3.27%
————————————————————————–
#Q&A จาก Opportunity Day
————————————————————————-
– แนวโน้มยอดขายไตรมาสสี่เติบโตเหมือนเดิม เกิดจาก SSSG +ต่อไปเรื่อยๆ การเติบโตของสาขาใหม่ค่อนข้างเติบโตดีมาก
– แผนเปิดสาขาปีหน้า 14 สาขารวมถึงออกตัวสินค้าใหม่ 10-20 รายการ เพื่อทำการตลาดเพิ่มสินค้าใหม่จะช่วย GPM มากขึ้น
– บริษัทภาพรวมเศรษฐกิจชะลอแต่ทางบริษัทขายยาเป็นปัจจัย 4
– งบลงทุนขยายสาขาพอๆกับปีนี้ งบการตลาดเพิ่มเล็กน้อย
– ช่วงไตรมาสสี่เป็นช่วงใช้จ่ายเยอะอยู่แล้วโดยร้านยามีสินค้า Consumer อื่นๆด้วยซึ่งมีการทำโปรกระตุ้นยอดขายปลายปี
– เศรษฐกิจไม่ดีมากแต่ยอดขายร้านยารวมเติบโต แต่ร้านยาในตลาดไม่ได้เพิ่มมากเพราะกฎระเบียบต่างๆของภาครัฐ
– บริษัทเลือกทำเลละเอียดมากขึ้นเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้น
– กลุ่มสินค้า Healthiness ปีนี้ Product จะออกมาเยอะขึ้นเนื่องจากบริษัทเลือกออกสินค้านวัตกรรม
– การ Ramp up ของสาขาใหม่โตเร็วกว่าเนื่องจากบริษัทเลือกพื้นที่ได้ดีขึ้น การจัดเรียงสินค้า การ Promote ที่ดีขึ้น
– Position ร้านยาของบริษัทตั้งราคาที่สามารถแข่งขันได้
– สาเหตุที่ปรับเป้าลดลงเพราะโครงการต่างๆเลื่อนเปิดและบริษัท Focus การขยายสาขาที่พื้นที่ดีๆมากขึ้น และไปดูเรื่องการออกสินค้าใหม่
– บริษัทมีการ Breakeven ปีถึงปีครึ่ง แต่สาขาใหม่ๆมีการ Break ได้ดีขึ้น
– งบลงทุนสาขาใหม่งบ 3-5 ล้านไม่รวม Inventory
– สาขา Superdrug บริษัทมองว่ามีโอกาสและทดสอบ Model นี้ใหม่เพราะมีโอกาสเปิดเพิ่มด้วย
————————————————————————–
สรุป
————————————————————————–
– รายได้บริษัทเติบโตในทุกกลุ่มสินค้ายังมีแนวโน้มเป็นบวกโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าPersonal Healthcareที่จะมีอัตรากำไรที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยและเป็นตัวดึง Traffic เนื่องจากเป็นสินค้าที่ใช้เวลาหมดไปและต้องมาซื้อซ้ำบ่อยๆ
– ในส่วนของกำไรขั้นต้นก็ไปในทิศทางที่ดีขึ้นทั้งProduct Mix และอำนาจต่อรองกับSupplier หากยอดขึ้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
– ค่าใช้จ่ายในการขายจะเป็นปัจจัยเดียวที่ยังกดดันกำไรเนื่องจากสาขาเปิดขึ้นเยอะและBreakeven ช้าทำให้สัดส่วนค่าใช้จ่ายในส่วนนี้สูงขึ้นมา แต่หากว่าร้านที่เปิดไปแล้วมีลูกค้าเข้ามาเพิ่มเรื่อยๆ จะทำให้กำไรในภาพรวมโตขึ้นและแสดงศักยภาพเต็มที่
————————————————————————–
“การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนลงทุน”
.
.
สรุปโดย ลงทุนกล้วยๆ