สรุปงบการเงิน หุ้น TIDLOR ไตรมาส 4/2567
📣 ดูเวอร์ชั่นเต็มคลิก : https://bit.ly/4jSo8lq (ลงทุนกล้วยๆ)
#หุ้นสินเชื่อปิดปีเข้มงวดกับการปล่อยสินเชื่อเคลียร์หลังบ้าน รอสัญญาณเศรษฐกิจดี
————————————————————————–
* Interest Income 4,702.08 +11.1% ประกอบด้วย
– Hire Purchase 324.59 -13.9%
– Title Loan 4,377.49 +13.5%
– Non-Life Insurance fee 628.92 +10.7%
– Other fees and Income 446.03 -3.4%
– รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นโดยพอร์ตจำนำทะเบียนมีการเติบโตขึ้น +8.9% แต่เนื่องจากมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยรับตามความเสี่ยงลูกค้าทำให้มีรายได้ดอกเบี้ยที่โตกว่าสินเชื่อ ในส่วนของพอร์ตเช่าซื้อนั้นมีการลดลง -12.5% เนื่องจากบริษัทไม่ปล่อยสินเชื่อเพิ่มและมีการตัดหนี้สูญออกไป
– รายได้จากประกันติดโล่นั้นยังคงเพิ่มขึ้น +10.7%ในไตรมาสสี่แต่ชะลอลงเมื่อเทียบจากต้นปีที่มีการเติบโตถึง 20% แต่บริษัทยังคงทำได้ดีกว่าอุตสาหกรรม
· Cost to Income 55.90%
· PPOP 2,005.29 -5.6% อัตราส่วนต่อรายได้ 34.71%
– ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นจากการมีอัตราค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็น 3.66%
– ค่าใช้จ่ายในการบริการและบริหารเพิ่มขึ้น +19.8%เพิ่มมากกว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสาเหตุมาจากค่าโฆษณาและส่งเสริมการขาย และการขาดทุนจากการด้อยค่าของทรัพย์สินรอการขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
· ECL to Revenue 701.50 -29.8%อัตราส่วนต่อรายได้ 15.44%
· Net Profit 1,044.46 +15.9% NPM 18.08%
· Asset Quality ของสินเชื่อรวม
– สินเชื่อ Stage (1) 80.24%
– สินเชื่อ Stage (2) 17.95%
– สินเชื่อ Stage (3) 1.81%
· % Coverage Ratio 242.67%
————————————————————————–
สรุป
————————————————————————-
– พอร์ตสินเชื่อเติบโตต่ำกว่า 10% ต่ำกว่าเป้าที่ผู้บริหารให้ไว้ในOpportunity Day ไตรมาส 3 ประกอบด้วยสินเชื่อจำนำทะเบียนที่โตน้อยลง และสินเชื่อเช่าซื้อ (รถบรรทุก) ที่ยังหดตัวลงสะท้อนถึงการระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ
– รายได้ประกันภัยมีการเติบโตลดลงเหลือ10% ในไตรมาสสี่ ต้องติดตามต่อว่าจะมีทิศทางอย่างไร
– ต้นทุนทางการเงินยังสูงขึ้นในไตรมาสสี่ทั้งที่ธนาคารแห่งประเทศไทยมีการลดดอกเบี้ยนโยบาย0.25% เมื่อเดือนตุลาคมเพราะบริษัทมีเงินกู้ดอกเบี้ยคงที่ทำให้ยังไม่ได้รับผลบวกแต่จะได้เมื่อเงินกู้ก้อนนั้นครบกำหนดและมีการกู้ใหม่ซึ่งเราอาจจะเริ่มเห็นผลในไตรมาส3/2025 และจะส่งผลชัดเจนในปี2026
– ค่าใช้จ่ายในการบริการและบริหารเพิ่มขึ้นมากกว่ารายได้จาก1. ค่าใช้จ่ายโฆษณาและการส่งเสริมการขายทั้งในส่วนของบัตรติดล้อและประกันติดโล่ 2.การขาดทุนรถยึดซึ่งเป็นปัญหาจากรถมือสองที่ปรับตัวลดลงและหนี้เสียเพิ่มมากขึ้น ค่าใช้จ่ายสองส่วนนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ Cost to Income Ratio ของไตรมาสสี่และปีนี้มากกว่าปีที่แล้ว
– การตั้งสำรองในไตรมาสสี่ลดลง -29.8% ทำให้กำไรสุทธิยังเติบโตได้อยู่
————————————————————————–
“การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนลงทุน”
.
.
สรุปโดย ลงทุนกล้วยๆ



