อยากสอบถามช่วงระยะเวลาการประเมิณมูลค่าหุ้นหน่อยครับ
สมมติวันนี้วันที่ 1 Jan 22 เราจะประเมิณผลประกอบการล่วงหน้าไป 1 ปีซึ่งก็จะเป็นผลประกอบการตอน 31 Dec 22 พอเวลาผ่านมาเรื่อยๆจนถึงกลางปี 1 July 22 แล้วในคลิปพี่ประพาสเคยบอกว่าเราจะสามารถประเมิณผลประกอบการทั้งปี 22 ได้แล้วแปลว่าราคาหุ้นของปี 22 ควรจะเริ่มสะท้อนผลประกอบการตั้งแต่ช่วง July หรือก็คือ 2H22 เป็นต้นไปแล้วราคาหุ้นก็ควรจะวิ่งเข้าสู่ Fair price ประมาณนี้รึป่าวครับ แล้วต่อมาพอเข้าสู่ช่วง Q4 (Oct - Dec) เราจะเริ่มประผลประกอบการของสิ้นปี 23 (31 Dec 23) ต่อไปเลยรึป่าวครับ
ผมอยากทราบว่าช่วงเวลาไหนเราควรจะเริ่มใช้ผลการดำเนินงานไหนที่เราประเมิณมาบ้างอะครับ เช่นช่วงเดือน 10 ถึงปลายปีเราควรจะใช้สมมติฐานผลประกอบการทั้งปี 23 หรือว่ากลางปี 23 หรือว่าใช้ของสิ้นปี 22 ครับ(รวมถึง FWD PE ด้วยครับ)
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
อยากสอบถามช่วงระยะเวลาการประเมิณมูลค่าหุ้นหน่อยครับ
สมมติวันนี้วันที่ 1 Jan 22 เราจะประเมิณผลประกอบการล่วงหน้าไป 1 ปีซึ่งก็จะเป็นผลประกอบการตอน 31 Dec 22 พอเวลาผ่านมาเรื่อยๆจนถึงกลางปี 1 July 22 แล้วในคลิปพี่ประพาสเคยบอกว่าเราจะสามารถประเมิณผลประกอบการทั้งปี 22 ได้แล้วแปลว่าราคาหุ้นของปี 22 ควรจะเริ่มสะท้อนผลประกอบการตั้งแต่ช่วง July หรือก็คือ 2H22 เป็นต้นไปแล้วราคาหุ้นก็ควรจะวิ่งเข้าสู่ Fair price ประมาณนี้รึป่าวครับ แล้วต่อมาพอเข้าสู่ช่วง Q4 (Oct - Dec) เราจะเริ่มประผลประกอบการของสิ้นปี 23 (31 Dec 23) ต่อไปเลยรึป่าวครับ
ผมอยากทราบว่าช่วงเวลาไหนเราควรจะเริ่มใช้ผลการดำเนินงานไหนที่เราประเมิณมาบ้างอะครับ เช่นช่วงเดือน 10 ถึงปลายปีเราควรจะใช้สมมติฐานผลประกอบการทั้งปี 23 หรือว่ากลางปี 23 หรือว่าใช้ของสิ้นปี 22 ครับ(รวมถึง FWD PE ด้วยครับ)
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราจะประเมินงบปีหน้ากันแล้วครับ
ทุกอย่างมีเหตุผลรองรับครับ
การจะประเมิน financial projection ได้ ก็ต้องมีข้อมูลก่อนถูกไหมครับ
ทำไมต้องเป็นหลังงบ Q3 ก็เนื่องจาก งบ Q3 จะประกาศช่วง ต.ค. พ.ย. และจะมี Oppday ต่อในช่วง พ.ย. ธ.ค. ซึ่งเป็นสิ้นปี
และหลายๆบริษัทก็จะมีการประกาศเป้าหมายของปีหน้ากันแล้วนั่นเองครับ ทำให้เรามี "ข้อมูล" เพื่อนำมาคาดการณ์กำไรในปีหน้าแล้วนั่นเองครับ
ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราจะประเมินงบปีหน้ากันแล้วครับ
ทุกอย่างมีเหตุผลรองรับครับ
การจะประเมิน financial projection ได้ ก็ต้องมีข้อมูลก่อนถูกไหมครับ
ทำไมต้องเป็นหลังงบ Q3 ก็เนื่องจาก งบ Q3 จะประกาศช่วง ต.ค. พ.ย. และจะมี Oppday ต่อในช่วง พ.ย. ธ.ค. ซึ่งเป็นสิ้นปี
และหลายๆบริษัทก็จะมีการประกาศเป้าหมายของปีหน้ากันแล้วนั่นเองครับ ทำให้เรามี "ข้อมูล" เพื่อนำมาคาดการณ์กำไรในปีหน้าแล้วนั่นเองครับ
แบบนี้แปลว่าราคาหุ้นช่วง พ.ย. ธ.ค. มันสะท้อนงบปี 22 อยู่ใช่ไหมครับ แปลว่าถ้าเรานำข้อมูลที่เราทำ Financial projection มาหา trailing PE ณ ช่วงนี้เราก็น่าจะเห็นการให้มูลค่าของ PE แต่ละตัวที่ตลาดยอมรับใช่ไหมครับ(ที่กลับมาทวนเพราะว่าจะได้ศึกษาว่าตลาดยอมรับ PE ของหุ้นแต่ละหุ้นที่ประมาณเท่าไหรบ้างในเหตุการณ์แต่ละปีครับ) ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็คือเราไม่ควรจะยึด Forward PE ปี 22 แล้วแต่ควรจะซื้อหุ้นด้วย Forward PE ปี 23 แทนตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้เป็นต้นไปใช่ไหมครับ
ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราจะประเมินงบปีหน้ากันแล้วครับ
ทุกอย่างมีเหตุผลรองรับครับ
การจะประเมิน financial projection ได้ ก็ต้องมีข้อมูลก่อนถูกไหมครับ
ทำไมต้องเป็นหลังงบ Q3 ก็เนื่องจาก งบ Q3 จะประกาศช่วง ต.ค. พ.ย. และจะมี Oppday ต่อในช่วง พ.ย. ธ.ค. ซึ่งเป็นสิ้นปี
และหลายๆบริษัทก็จะมีการประกาศเป้าหมายของปีหน้ากันแล้วนั่นเองครับ ทำให้เรามี "ข้อมูล" เพื่อนำมาคาดการณ์กำไรในปีหน้าแล้วนั่นเองครับ
แบบนี้แปลว่าราคาหุ้นช่วง พ.ย. ธ.ค. มันสะท้อนงบปี 22 อยู่ใช่ไหมครับ แปลว่าถ้าเรานำข้อมูลที่เราทำ Financial projection มาหา trailing PE ณ ช่วงนี้เราก็น่าจะเห็นการให้มูลค่าของ PE แต่ละตัวที่ตลาดยอมรับใช่ไหมครับ(ที่กลับมาทวนเพราะว่าจะได้ศึกษาว่าตลาดยอมรับ PE ของหุ้นแต่ละหุ้นที่ประมาณเท่าไหรบ้างในเหตุการณ์แต่ละปีครับ) ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็คือเราไม่ควรจะยึด Forward PE ปี 22 แล้วแต่ควรจะซื้อหุ้นด้วย Forward PE ปี 23 แทนตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้เป็นต้นไปใช่ไหมครับ
ไม่เสมอไปนะครับ ตลาดมองอนาคตเสมอครับ