Posted by: @neung-c

↑

สัมผัสได้ว่าอ.มีแรงในการทำงานเต็มที่และสอนอย่างจริงใจมากๆ สอนเต็มที่ เป็นห่วงลูกศิษย์, อ.มีmindset หรือมีpassionอะไรพิเศษ มีความเชื่อหรือหลักคิดอะไร ในการทำงานครับ, อยากเป็นคนที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพ ไม่ขี้เกียจ และจริงใจกับงานได้แบบอ.ครับ

ขอบคุณสำหรับคำถามนะครับ

ผมคิดว่า Key to success จริงๆคือ Mindset อ่ะครับ

ผมเคยอ่านหนังสือเจอว่า ทำเงินเพื่อเงินไม่รวย แต่ไม่ทำงานเพื่อเงินจะรวยครับ

การทำงานเพื่อเงิน ข้อดีคือ เรารู้ว่าเราจะได้เท่าไหร่ ข้อเสียคือ เราไม่มีทางได้มากกว่าที่ควรจะได้

การไม่ทำงานเพื่อเงิน ข้อเสียคือ เราไม่มีทางรู้ว่าเราจะได้เท่าไหร่ ข้อดีคือ เรา "อาจจะ" ได้มากกว่าที่เราคาดหวัง

และประสบการณ์ผมก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ

ตอนผมทำธุรกิจร้านมือถือเล็กๆ ผมเป็นคนขี้เกรงใจ ไม่ค่อยกล้าคิดเงินลูกค้าครับ แต่ผมรู้สึกว่าได้ลงมือทำแล้วผมเก่งขึ้น แค่นีั้ผมก็พอใจแล้ว ผมแค่ต้องการจะพัฒนาตัวเองก็พอ

แต่ผลลัพธ์คือ ลูกค้าก็เกรงใจผมเช่นกัน แล้วก็ช่วยอุดหนุนร้านผมอย่างเหนียวแน่น 

ต่างจากร้านค้าที่อยากขายของ มันไม่มีพันธะทางใจต่อกันมั้งครับ

และลูกค้าผมก็มีแต่ CEO บริษัทในตลาดหุ้นเยอะมากๆ ผมแค่ต้องการขอคำแนะนำจากเค้านิดๆหน่อยๆแค่นั้นผมก็คิดว่าคุ้มค่ามากแล้ว แต่ทุกๆคนก็เอ็นดูผม และอุดหนุนผม

พอมีประสบการณ์แบบนี้เลยทำให้ผมรู้ว่า เราต้องให้ก่อน และอย่าคาดหวัง เราคาดหวังแค่ช่วยให้คนอื่นได้ประโยชน์ เดี๋ยวประโยชน์จะตามมาทีหลังเอง

ตอนผมอยากสอนหุ้น ผมก็ไม่ได้คาดคิดว่ามันจะดี ผมแค่ช่วยเบิร์ดเต็มที่ แล้วเบิร์ดก็ offer โอกาสนี้มาให้

ตอนที่รับโอกาสนี้ ผมก็ยังเต็มใจที่จะให้เบิร์ดมากกว่าผม แต่ผมก็โชคดีที่น้องเป็นคนที่ดีมากๆ และให้ผมกลับมามากกว่าที่ผมคาดคิด 

แต่ก็มีนะครับ ที่ผมช่วยเหลือคนอื่นแล้วโดนแทงข้างหลัง มีเป็นประจำ มันเป็นของคู่กันอ่ะครับ การให้คนอื่นของเรา มันก็ย่อมเจอคนสองประเภท คือ จ้องเอาเปรียบเรา กับเกื้อกูลเรา ถ้าเราให้มากพอเราจะเจอคนที่เกื้อกูลเราอ่ะครับ

เรื่องการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ผมคิดว่าเป็นเรื่อง Mindset เรื่อง "เป้าหมาย" ชีวิตครับ

ที่บ้านผมยากจนมากพอสมควร ตอนเด็กๆใส่แต่ชุดนักเรียนเก่าๆ ตูดขาด รองเท้าเป็นรูโบ๋ 

รวยเป็นยังไงผมก็ไม่รู้ แต่ผมรู้ว่าความจนมันน่ากลัวมาก

ผมเลยตั้งเป้าหมายตั้งแต่เด็กๆว่าจะต้องรวยเป็นพันล้านให้ได้

ตอนเด็กๆก็ไม่รู้ว่าเงินพันล้านมันเยอะแค่ไหน ยากแค่ไหน

แต่ผมก็จะพยายามหาเงินตลอดเวลาตั้งแต่เด็กๆอ่ะครับ

ครั้งแรกผมรับจ้างพิมพ์งานตอน ม.1 ได้เงินมา 7,000 บาท หมดเวลาไป 1 เดือนเต็ม

ผมก็คำนวณและพบว่า ถ้าจะมีพันล้าน ต้องใช้เวลาเป็นหมื่นปีโดยไม่กินไม่ใช้เลย ก็แสดงว่าไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง

ต่อมาผมก็เริ่มสอบแข่งชิงทุน แข่งบาส กินตังค์ เริ่มหาเงินได้เดือนหลักหมื่น ตั้งแต่ ม.ปลาย ก็ยังคิดว่าไม่ใช่อีก

จนผมได้ realized ว่าทรัพยากรที่สำคัญของคนเราคือ "เวลา" ไม่ใช่อย่างอื่น เช่น เงิน

ผมเลยคิดว่าเราควรจ่ายทุกอย่างเพื่อให้ได้เวลากลับมา และใช้มันอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดอ่ะครับ

ดังนั้นในการใช้ชีวิตในแต่ละวันผมจะคำนึงถึงเรื่องเวลามากที่สุดตลอดเวลา

สุดท้ายผมคิดว่ามันเป็นเรื่อง Passion ครับ ที่ขับเคลื่อนตัวผม

Passion จริงๆเริ่มต้นจากการอยากรวยครับ

Passion ต่อมาคือผมได้พบงานที่เหมาะกับผมที่สุด Perfect match ก็คือลงทุนหุ้น เราเลยทำมันแบบไม่เหมือนทำงาน มีความสุขในทุกๆวัน พอเรามีความสุขกับเนื้องาน เราก็ควรจะทำมันได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยอ่ะครับ

และก็ต้องยอมรับว่าผมเองก็ไม่สามารถคิดได้เองทุกอย่างนะครับ แต่อ่านมาจากหนังสือเยอะมากๆครับ โดยเฉพาะหนังสือประเภท แนวคิด, biography คนประสบความสำเร็จ พวกนี้ 

@prapas-b88 ขอบคุณมากๆครับอาจารย์ เห็นภาพและเข้าใจแนวคิดครับ, พอดีส่วนตัวเป็นครูเหมือนกัน แต่รู้สึกว่าความเป็นครูในตัวสู้อาจารย์ไม่ได้เลย ทั้งเรื่องความทุ่มเทในเนื้องานหรือความสามารถในการถ่อยทอด ขอบคุณมากๆนะครับ

Posted by: @neung-c

↑

@prapas-b88 ขอบคุณมากๆครับอาจารย์ เห็นภาพและเข้าใจแนวคิดครับ, พอดีส่วนตัวเป็นครูเหมือนกัน แต่รู้สึกว่าความเป็นครูในตัวสู้อาจารย์ไม่ได้เลย ทั้งเรื่องความทุ่มเทในเนื้องานหรือความสามารถในการถ่อยทอด ขอบคุณมากๆนะครับ

ขอบคุณเช่นกันนะครับ ^ ^

เรื่องการถ่ายทอดส่วนตัวก็คิดว่าทำได้ไม่ดีนะครับ แต่ก็จะพยายามพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ รับฟัง feedback ตลอด ทำได้บ้าง ทำไม่ได้บ้าง อันนี้ก็อยู่ที่ความถนัด กับการปรับตัวของเราเองด้วย เนื้อหาในการสอน หรือแม้แต่ live วันจันทร์ ถ้าสังเกตุดีๆ ผมจะปรับเปลี่ยนตลอด หลักๆก็เพราะเราพยายามมองหาจุดผิดพลาด หรือข้อเสียของตัวเองตลอดทุกครั้งที่ทำงาน และแก้ไขมันทุกครั้งเช่นกันครับ แต่ก็อย่างที่บอกนะครับ บางอย่างก็เป็นสันดาน แก้ไม่ได้ก็มีครับ 55+ ส่วนนึงอาจเป็นเพราะ โดย Nature ตัวผมไม่สามารถทำงาน routine ได้ จริงๆผมเป็นพวก Adventure ชอบทำงานใหม่ๆตลอดเวลาครับ ในเนื้องานเดิมๆเราจึงต้องพยายามหาจุดที่จะพัฒนา process ให้ดีขึ้นตลอด เพื่อที่งานจะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เซฟเวลาขึ้น เปลี่ยนเนื้องานไปในตัว