-Template (Master) ที่ได้รับมาจะมี 3 Sheet คือ Price, ASK, CPN และขอยกตัวอย่าง สูตรหา Cash and Cash Equivalents ใน Sheet ASK และ CPN ครับ
-Sheet ASK ซึ่งจะใช้สำหรับ “กิจการในกลุ่มการเงิน” สูตรสำหรับการหาค่าเฉลี่ยแบบทบต้น =RATE(M$315-I$315,,-I322,M322) คือคิดจากปี 2015 – 2019
-ส่วนSheet CPN ซึ่งจะใช้สำหรับ “กิจการในกลุ่มทั่วไป” แต่...สูตรสำหรับการหาค่าเฉลี่ยแบบทบต้น =RATE(M$324-B$324,,-B331,M331) คือคิดจากปี 2008 – 2019
-กรณีแบบนี้ Sheet ที่ใช้ในกิจการการด้านการเงิน สูตรถูกต้องแล้ว หรือ ต้องปรับให้ปีเริ่มต้น เป็นปี 2008 เหมือนกันครับ
-จริงๆแล้วการปรับหรือไม่ปรับสูตร ก็ไม่มีผลต่อ ค่า Valuation ต่างๆ เพียงอยากทำให้ถูกเท่านั้นครับ
ขอบคุณมากครับ
-กรณีแบบนี้ Sheet ที่ใช้ในกิจการการด้านการเงิน สูตรถูกต้องแล้ว หรือ ต้องปรับให้ปีเริ่มต้น เป็นปี 2008 เหมือนกันครับ
สูตร Rate ทางด้านขวามือนั้นเป็นการคำนวณหาการเติบโตแบบทบต้นในระยะยาว หรือ CAGR ซึ่ง ควรใช้จำนวนปีที่เหมาะสมในการคำนวณแตกต่างกันไปครับ และไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้ถึงปี 2008 เสมอไปครับ เหตุผลคือ เราควรจะต้องศึกษาคุณภาพธุรกิจนั้นๆให้ละเอียดขึ้น เพื่อศึกษาดูความเหมาะสมว่า ธุรกิจได้มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่สำคัญมากรึเปล่า ที่จะทำให้การหาค่า cagr นั้น จะเพี้ยนเกินไปครับ
-จริงๆแล้วการปรับหรือไม่ปรับสูตร ก็ไม่มีผลต่อ ค่า Valuation ต่างๆ เพียงอยากทำให้ถูกเท่านั้นครับ
ขอบคุณมากครับ
อย่างที่ผมได้สอนพวกเราไปครับ ผมจะพยายามย้ำบ่อยๆว่า เรื่องงบการเงิน ความถูกต้องนั้นมาจากตัวงบการเงินเรียบร้อยแล้ว
สิ่งที่เรานำมาคำนวณต่อนั้นเป็นเรื่องของ "มุมมอง" ล้วนๆครับ ย่อมไม่มีความ "ถูก หรือ ผิด" แต่อย่างใดครับ ^ ^
มันเป็นเพียงมุมมองความเข้าใจธุรกิจแต่ละธุรกิจในเชิง "คุณภาพ" ครับ ว่าผมคิดว่าแต่ละธุรกิจนั้นการคำนวณ cagr นั้นควรใช้กี่ปีคำนวณ เหตุผลแตกต่างกันไป แต่หลักๆคือ การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในเชิงคุณภาพของ Business Model และ กำไร เป็นต้นครับ