Hot Topic

Hot Topic! Kerry หุ้นนางฟ้าตกสวรรค์ ไม่ใช่ตัวสุดท้าย อย่าให้เกิดกับเรา! | Hot Topic EP.14

KEX หุ้นนางฟ้าตกสวรรค์ อย่าให้เกิดกับพอร์ตเรา

หุ้น KEX หรือ Kerry Express อดีตหุ้นยอดนิยมที่เคยถูกเรียกว่า “หุ้นนางฟ้า” กลับกลายเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่นักลงทุนต้องเรียนรู้มากที่สุดแห่งปี 2568 หลังจากประกาศ เพิกถอนตัวเอง ออกจากตลาดหลักทรัพย์ ข่าวนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนในวงการลงทุนอย่างหนัก และกลายเป็นประเด็นร้อนที่ อาจารย์ประพาส เบิร์ด ลงทุนกล้วยๆ หยิบยกมาถอดบทเรียนในรายการ Hot Topic EP.14 เพื่อเตือนสติให้นักลงทุนไทยได้ตั้งคำถามก่อนตัดสินใจทุกครั้งว่า “หุ้นนี้…มีกำไรจริงหรือไม่?”


KEX เพิกถอนตัวเอง จุดจบของความคาดหวัง

วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 คือวันที่ KEX ประกาศเพิกถอนหุ้น อย่างเป็นทางการ แม้จะมีการซื้อหุ้นคืนบางส่วนเพื่อปลอบใจนักลงทุน แต่ความจริงที่น่าตกใจก็คือ นักลงทุนรายย่อยจำนวนมากต้องเผชิญความไม่แน่นอนอย่างหนัก เพราะเมื่อหุ้นถูกเพิกถอน ก็ไม่สามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้อีกต่อไป สิ่งที่เหลืออยู่คือความเสี่ยง และโอกาสในการขาดทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


รายได้โต แต่ “กำไร” หาย หลุมพรางจากการเติบโตที่ไม่แท้จริง

ในช่วงโควิด-19 รายได้ของ KEX พุ่งสูงขึ้นจาก ธุรกิจขนส่ง และ อีคอมเมิร์ซ ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด แต่เมื่อดูให้ลึกใน งบการเงิน KEX โดยเฉพาะปี 2563–2564 กลับพบว่ากำไรแทบไม่เหลือ เนื่องจากต้นทุนดำเนินการสูง และค่าใช้จ่ายคงที่ถ่วงกำไรไว้ สะท้อนถึง การเติบโตแบบลวงตา ซึ่งไม่ได้แปลว่าเป็นธุรกิจที่แข็งแกร่งแต่อย่างใด


หุ้นโตตามกระแส ที่ไม่ยั่งยืน จากชาเขียวถึง Kerry

อาจารย์ประพาส เบิร์ด ลงทุนกล้วยๆ ยกตัวอย่างธุรกิจ ชาเขียว ที่เคยฮิตจนหลายบริษัทรีบลงทุนตามกระแส สุดท้ายเจอการแข่งขันรุนแรง รายได้ลดลง และต้องปิดกิจการไปในที่สุด เช่นเดียวกับ KEX ที่แม้จะดูโตจากยอดขาย แต่โครงสร้างต้นทุนและกำไรกลับสวนทางกัน


Red Ocean หุ้นขนส่งไทย แข่งกันเผาเงิน ไม่มีใครกำไร

ตลาดโลจิสติกส์ไทยเป็น Red Ocean เต็มไปด้วยคู่แข่งทั้งรายเก่า-ใหม่ เช่น Shopee, Lazada, Grab ที่แข่งขันด้านราคาแบบเผาเงิน การเป็น “เบอร์หนึ่ง” จึงไม่ได้หมายถึงการทำกำไรที่แท้จริง หุ้นขนส่งไทย จึงมีความเสี่ยงสูงหากไม่มี โครงสร้างต้นทุน ที่แข็งแกร่ง


ผลกระทบจาก TRUE-DTAC KEX เสียเปรียบทันที

KEX เคยเป็นพันธมิตรกับ TRUE แต่เมื่อควบรวมกับ DTAC ทำให้สูญเสียฐานลูกค้าหลัก เป็นการตอกย้ำว่า หุ้นที่พึ่งพาพาร์ทเนอร์ มากเกินไปย่อมเปราะบาง


ARPU คืออะไร และทำไมต้องดู?

ARPU (Average Revenue Per User) เป็นตัวชี้วัดคุณภาพรายได้ หากลูกค้าเพิ่มแต่ ARPU ลด แสดงถึงปัญหาเชิงโครงสร้าง ในกรณี หุ้น KEX รายได้น้อยลงแต่ต้นทุนสูงขึ้น ตรงข้ามกับ ADVANC และ CPALL ที่จัดการต้นทุนและรายได้ต่อหน่วยได้ดี


MD&A ไม่ชัดเจน = นักลงทุน ควรระวัง

MD&A เป็นหน้าต่างสื่อสารระหว่างผู้บริหารกับนักลงทุน หากไม่มีแผนพลิกฟื้น หรือไม่พูดถึงการควบคุมต้นทุน นักลงทุนควร “ตั้งข้อสงสัย” ซึ่ง อาจารย์ประพาส เบิร์ด ลงทุนกล้วยๆ ย้ำชัดว่าเป็น “สัญญาณแดง”


งบดุล KEX สะท้อนสภาพคล่องที่ตึงตัว

หนี้สูง สินทรัพย์ถาวรสูง และรายได้ไม่พอต้นทุน ทำให้บริษัทขาดความสามารถในการดำเนินการอย่างยั่งยืน และนำไปสู่ ขาดทุนสะสม


เทียบกับ หุ้นคุณภาพ GLOBAL และ HMPRO

HMPRO ใช้ โมเดลฝากขาย (Consignment) เพื่อลดต้นทุน ส่วน GLOBAL เน้นขยายสาขาเฉพาะพื้นที่ที่มีดีมานด์จริง ต่างจาก KEX ที่โตแบบไม่คุ้มทุน


Unit Economics = หัวใจของ หุ้นเติบโตแท้จริง

ธุรกิจที่โตแล้วยิ่งลดต้นทุนต่อหน่วย และเพิ่ม กำไรต่อหน่วย ได้ คือ หุ้นเติบโตแท้จริง ไม่ใช่โตแค่ยอดขายแต่ขาดทุนเพิ่มเหมือน KEX


5 สัญญาณเตือน หุ้นไม่ยั่งยืน

  1. รายได้เพิ่ม แต่กำไรลด
  2. ขยายเร็วเกินไป
  3. แข่งขันราคาอย่างเดียว
  4. ไม่มีแผนใน MD&A
  5. ผู้บริหารพูดไม่ตรงกับงบการเงิน

ข้อคิดจากหุ้น KEX ต้องรู้ลึกก่อนลงทุน

  • อย่าหลงกับคำว่า “ยอดขายดี” ต้องถามว่า “กำไรดีไหม?”
  • อ่าน งบการเงิน หุ้นขนส่ง และ MD&A ให้ลึก
  • มองหา Unit Economics ที่ดี

อาจารย์ประพาส เบิร์ด ลงทุนกล้วยๆ เน้นเสมอว่า การลงทุนไม่ใช่แค่การตามกระแส แต่ต้องเข้าใจพื้นฐานอย่างแท้จริง


สรุป หุ้นดี ต้องกำไรดี และบริหารดี

อย่าด่วนซื้อ หุ้นราคาลง หากไม่รู้ว่า “ลงเพราะอะไร” หากไม่มีคำตอบจาก งบการเงิน หรือ MD&A ก็อย่าเสี่ยง

หุ้นดีจริง ต้องทำกำไรระยะยาวได้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Protected by CleanTalk Anti-Spam