สรุป Oppday และ งบการเงิน หุ้น KTC ไตรมาส 2/2566
📣 ดูเวอร์ชั่นเต็มคลิก : https://bit.ly/3sq4cQI
#สรุปงบการเงิน + Opportunity Day
#สินเชื่อบัตรกรุงไทยยอดใช้จ่ายเพิ่มแต่สำรองกดดัน
————————————————————————–
· Total Revenue 6,239 +8.80% แบ่งตามสินเชื่อดังนี้
– Credit Card 1,974 +13.32% เพิ่มขึ้นตามยอดใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและจำนวนบัตรที่มากขึ้น 2.61 ล้านใบ
– Personal Loan 1,934 +8.41%
– Leasing 64 +137.04%
– Fees 1,326 +10.50%
– Bad Debt Recovery 765 -10.07%
· Cost to Income 36.65%
· PPOP 3,689.93 +8.05% อัตราส่วน 59.14%
– ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นจากสาเหตุการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยและการกู้เงินเพิ่มขึ้นเพื่อมาปล่อยสินเชื่อ
– ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นน้อยกว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้ซึ่งบริษัทค่อนข้างที่จะคุมได้
· ECL to Revenue 1,438.37 +38.48% สัดส่วน 23.05%
– การตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อมาควบคุมสินเชื่อและการตัดจำหน่ายหนี้สูญ
· Net Profit 1,805.83 -4.64% สัดส่วน 28.94%
· Asset Qualityของสินเชื่อรวม
– สินเชื่อ Stage 1 ยังเติบโตขึ้นจากไตรมาสที่แล้วจากสินเชื่อทั้งสามประเภทโดยมีการขยับขึ้นของ Stage 2 และ Stage 3
· % Coverage Ratio 433.24%
————————————————————————–
#Q & A จาก Opportunity Day
————————————————————————–
– ไตรมาส 3 บริษัทคาดว่าจะตั้งเป้าโตยอดบัตรเครดิต 13% -15% ส่วนของ Personal Loan จะตั้งเป้าประมาณ 7% ปิดปีก็ 7% ส่วนของพี่ Berm คาดว่าจะเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก
– การตั้งสำรองในไตรมาส 3 จะไม่แตกต่างกับไตรมาส 2 โดยอัตราการผิดนัดชำระหนี้ยังดีกว่าช่วงก่อนโควิด
– บริษัทจะประกาศ CEO คนใหม่ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม
– บริษัทมีมุมมองกับการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเรื่องการเลื่อนการจ่ายขั้นต่ำ 5%ไปอีกหนึ่งปี คือ จะเป็นข้อดีของลูกค้าผ่อนได้ยาวขึ้น ลดการเบี้ยวหนี้
– บริษัทมีมุมมองกับคุณภาพสินเชื่อคือบริษัทคิดว่าควบคุมได้และมีสำรองที่ปลอดภัยพอสมควร
– ปี 2024 คาดหวัง P’Berm โตได้และดอกเบี้ยที่ดีกว่าและค่าใช้จ่ายเทคโนโลยีที่ลงทุนไปจะสามารถลดต้นทุนได้ดีและอาจจะทำกำไร New High ได้
– KTC มีโอกาสการโตก้าวกระโดดจาก P’Berm ที่จะมีโอกาสที่จะขยายพอร์ตที่มากกว่า 4 เท่า และจะใช้เวลา 12-18 เดือนที่จะทำให้รับรู้แบรนด์
————————————————————————–
สรุป
————————————————————————–
· สินเชื่อบัตรเครดิตและส่วนบุคคลนั้นมีความเสี่ยงที่จะมีการกำกับจากธนาคารแห่งประเทศไทยที่อยากลดการเป็นหนี้ของประชาชน ซึ่งจะมีผลกับบริษัทเช่นการกระตุ้นการใช้จ่ายต่างๆผ่านโฆษณา ไม่กระตุ้นให้ใช้จ่ายเกินตัวทำให้การเติบโตของพอร์ตอาจจะลดลงในระยะถัดไป
————————————————————————–
“การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนลงทุน”
.
.
สรุปโดย ลงทุนกล้วยๆ



