อันที่พิมพ์ CPALL ตัวเดียว แค่ลองพิมพ์ตอบในคลาสเรียนครับ

ในอดีตผมเคยถือหุ้น CPALL ตัวเดียวทั้งพอร์ทมาช่วงเวลาหนึ่ง แต่ก็รู้สึกว่าพอร์ทเหวี่ยงแรงมากทีเดียว 
คิดว่าคงไม่กลับไปทำแบบนั้นอีกแล้วครับ 

2. ส่งการบ้านหุ้น 5 ตัว 
2.1) มีหุ้นตัวไหนบ้าง
สัดส่วน
CPALL 30%
MINT 20%
SCB 15%
KBANK 15%
อีก 20% กำลังเลือกระหว่าง ADVANC กับ CPN ครับ 

เหตุผลที่เลือก 2 ธนาคารเข้าในพอร์ท เพราะกลุ่มธนาคารถือว่ามี MOS ที่มากกว่ากลุ่มอื่น แต่ในเมื่อจะถือในสัดส่วนที่มากแล้ว เลยไม่อยากถือตัวเดียว จึงเลือกกระจายไปธนาคาร 2 ตัวเท่าๆกันแทนครับ 

2.2) มีส่วนลดเท่าไหร่ (MOS)
P/BV MOS
CPALL 37%
MINT 50%
SCB 63%

KBANK 70%
CPN 32%
ADVANC 33%

2.3) ระบุประเภทหุ้น (ใส่ได้มากกว่า 1 ประเภท)

CPALL แข็งแกร่ง
MINT แข็งแกร่ง + โตเร็ว

KBANK วัฏจักร
SCB วัฏจักร

CPN แข็งแกร่ง
ADVANC โตช้า

2.4) เหตุผลที่ซื้อในเชิงคุณภาพ
CPALL : บริษัทเป็นผู้นำตลาดแบบเบ็ดเสร็จ มี business model ที่แข็งแกร่งที่สุด มีแผนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 

MINT : เป็นบริษัทที่มีความ aggressive ในการเติบโตเป็นอย่างมาก โดยไม่ยึดติดกับประเทศไทยเพียงอย่างเดียว และผลงานในอดีตได้เป็นข้อพิสูจน์ความสามารถของผู้บริหาร เป็นบริษัทที่ดี ที่ประสบปัญหาชั่วคราว(แม้จะนานหน่อย ก็เชื่อว่าสามารถอยู่รอดได้ และมีโอกาสทางธุรกิจที่ดีในยุค post covid เนื่องจากคู่แข่ง คือ โรงแรมที่สภาพคล่องไม่ดีพอ อาจปิดตัวไปหลายแห่ง)

SCB , KBANK : ทั้งสอง ดูมีความพยายามในการ disrupt ตัวเอง ก่อนที่จะโดนคนอื่น disrupt ดูเป็นธนาคารใหญ่สองแห่งที่มีโอกาสปรับตัวเข้ากับยุคสมัยได้ดี

CPN : เป็นธุรกิจแข็งแกร่ง(ใครๆก็บ่นว่าค่าเช่าพื้นที่ในเซ็นทรัลแพง แต่ก็ยังคงมีร้านค้าจำนวนมากที่ต้องการพื้นที่ในนั้น เมื่อมีผู้ย้ายออก ก็จะมีผู้เช่ารายใหม่เข้ามาทันที) และเป็นบริษัทที่ติดตามได้ไม่ยาก 

ADVANC : เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ได้เปรียบคู่แข่งในทุกด้าน 

1. แนวคิดทีได้จากคอร์สนี้คือ มุ่งเน้นหาหุ้นเป้าหมายที่ต้องการลงทุนโดยการประเมินเชิงคุณภาพหลายๆด้าน และเข้าซื้อลงทุนในช่วงราคาที่เหมาะสม มีส่วนลดที่มากพอ เพื่อให้มีความเสี่ยงที่ต่ำ มีโอกาสทำกำไรสูง ตามเป้าการลงทุน

2. การบ้านหุ้น 5 ตัว       ประเภท                 mos p/bv                                 เหตุผล

cpall                        แข็งแกร่ง                    41%          เติบโตต่อเนื่อง เบอร์1ในอุตสาหกรรม อำนาจต่อรองสูง กินรวบ 

sabina                    เติบโต                         28%         จัดการต้นทุนได้ดี กำไรโต แผนการตลาดเยี่ยม

sawad                   เติบโต                          56%          ควบ bfit สเกลใหญ่ขึ้น มีแผนขยายไปclmv

mint                     แข็งแกร่ง ฟื้นตัว                53%         กระจายการลงทุนดี มีเหตุวิกฤตชั่วคราว

s11                      เติบโต                          52%          มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น ไม่มีต้นทุนสาขา

เรียนแล้วทำให้ไปเติมเงินในหุ้น5ตัว อีก2ไม่เติมเพราะไม่ได้mosค่ะ

พอดีพิมพ์เสร็จแล้วส่งไม่ไปเลยขอส่งเป็นรูปครับ

ต่อครับ

1. ให้ทุกท่านช่วยสรุป เราได้อะไรจากคอร์สนี้บ้าง

มีเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน และสามารถทำให้บรรลุเป้าหมายได้ ทราบถึงวิธีการประเมินมูลค่าหุ้นที่มี MOS 30%

ทำให้มีความมั่นใจในการลงทุน ทราบถึงการวิเคราะห์หุ้นเชิงคุณภาพ มองเห็นภาพของธุรกิจที่จะลงทุนชัดเจนขึ้น

2. ส่งการบ้านหุ้น 5 ตัว

2.1) มีหุ้นตัวไหนบ้าง

สัดส่วน

CPALL 25%

KBANK 15%

ADVANC 20%

CPN 25%

MTC 15%

2.2) มีส่วนลดเท่าไหร่ (MOS)

P/BV MOS

CPALL 37.27 %

KBANK 69.79%

ADVANC 33.44 %  

CPN 35.31%

MTC 30.85%

2.3) ระบุประเภทหุ้น (ใส่ได้มากกว่า 1 ประเภท)

CPALL  แข็งแกร่ง

KBANK วัฏจักร

ADVANC โตช้า

CPN  แข็งแกร่ง

MTC โตเร็ว

2.4) เหตุผลที่ซื้อในเชิงคุณภาพ

CPALL : เป็นบริษัทที่แข็งแกร่ง เป็นผู้นำในตลาดค้าปลีก มีส่วนแบ่งตลาดถึง 64% มีการบริหารจัดการที่ดี มีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง

ADVANC : มีความแข็งแกร่ง เป็นผู้นำในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีส่วนแบ่งตลาดเชิงรายได้ 48% เชิงผู้ใช้บริการ 45% และมีขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสร้างเครื่องสร้างรายได้ใหม่ ทั้งการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และการให้บริการลูกค้าองค์กร รวมถึง แพลตฟอร์มดิจิทัล

CPN  :เป็นบริษัทที่แข็งแกร่ง มีการบริหารจัดการที่ดี มีแผนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์กับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลง

 KBANK : เป็นหุ้นวัฏจักร  ซึ่งตอนนี้อยู่ช่วง Bottom  ของวัฏจักร และธนาคารมีการบริหารจัดการที่ดี มีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยง สูงกว่าที่ ธปท กำหนด ทำให้สถานะเงินกองทุนของธนาคารแข็งแกร่ง มีความสามารถที่จะผ่านวิกฤตไปได้

MTC : บริษัทเป็นผู้นำในการให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถและที่ดิน มีส่วนแบ่งตลาดถึง 36 %  มีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง และจำนวนกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่จะสามารถนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ รวมถึงทะเบียนรถยนต์ที่จะใช้เป็นหลักประกันขอสินเชื่อมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทำให้ธุรกิจสามารถโตขึ้นได้อีก และบริษัทเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มอุตสาหกรรม

ข้อที่ 1) ให้สรุปสิ่งที่ได้รับจากคอร์สนี้

- ได้ทราบถึงกฏของ VI ที่แท้จริงต้องซื้อในราคาที่ถูก รู้วิธีการคำนวนการประเมินมูลค่าหุ้นที่เหมาะสมแก่การซื้อ เข้าใจหลักการเลือกหุ้น พิจารณาปัจจัยคุณภาพและราคาของหุ้น

ข้อที่ 2 รายละเอียดของส่งการบ้าน ส่งการบ้านหุ้น 5 ตัว 
2.1)มีหุ้นตัวไหนบ้างสัดส่วน

CPALL    40%

KBANK   15%

MINT      15%

MTC       15%

SAWAD  15%

2.2) มีส่วนลดเท่าไหร่ (MOS)
P/BV MOS
CPALL     37%

KBANK    70%

MINT      50%

MTC       30%

SAWAD  58%

2.3) ระบุประเภทหุ้น (ใส่ได้มากกว่า 1 ประเภท)

CPALL   แข็งแกร่ง

KBANK  วัฏจักร

MINT     แข็งแกร่ง + เติบโต

MTC      เติบโต

SAWAD  เติบโต

2.4) เหตุผลที่ซื้อในเชิงคุณภาพ
CPALL : บริษัทเป็นผู้นำตลาด ที่แข็งแกร่งที่สุด มีแผนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีโอกาสเพิ่มด้านกำไร และขยายสินค้า 

KBANK : เป็นธนาคารชั้นนำของประเทศ มีปรับตัวอย่างรวดเร็ว 

MINT : เป็นบริษัทที่มีความในการเติบโตในเทรนการท่องเที่ยว ในหลายประเทศ ผลงานเติบโตต่อเนื่อง

MTC  : บริษัทมีการเติบโตที่ดี 

SAWAD : บริษัทที่มีการเติบที่ดี 

1.หลังจากเรัยนจบแล้วได้ความรู้และแนวทางในการลงทุนที่สามารถนำไปใช้ในทางปฎิบัติได้จริง

ได้แนวคิดและความมั่นใจในเส้นทางการลงทุนแบบVI  มีความขยันมากขี้น ฟังคนคุยกันรู้เรืองมากขึ้น กลับไปอ่านหนังสือแล้วเข้าใจกว่าเดิม

2.

CPALL MOS PBV 37%  เป็นหุ้นแข็งแกร่ง  เป็นผู้นำ มีระบบจัดการที่ดีอำนาจต่อรองสูง สามารถเติบโตทั้งในและตปท.

ADVANC  MOS PBV 33%  หุ้นแข็งแกร่งและโตช้า เป็นผู้นำ ลักษณะธุรกิจยังดีในอนาคต ยังไม่มีdisruption 

MTC  MOS PBV 30%  หุ้นเติบโต ผู้บริหารเก่ง ขยายสาขาไม่ต้องลงทุนมาก ธุรกิจยังเป็นที่ต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทุกยุคสมัย

KBANK  MOS PBV 69% หุ้นวัฎจักรและแข็งแกร่ง  อยู่ในช่วงต่ำสุดน่าจะฟ้ันตัวได้ สถานะการเงินแข็งแกร่ง พยายามปรับตัว

BDMS MOS PBV 23%  หุ้นแข็งแกร่ง แต่ mos ยังไม่เยอะไม่ทราบว่าพอจะลงทุนได้หรือเปล่าคะ จากสังคมผู้สูงวัยที่เพิ่มชึ้นและคนใส่ใจสุขภาพมากขึ้น  มีแบรนด์ที่น่าเชื่อถือเป็นผู้นำ มีเตรือข่ายมาก สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดีกว่ารพ.เล็ก

1. ให้ทุกท่านช่วยสรุป เราได้อะไรจากคอร์สนี้บ้าง

- ได้แนวคิด และวิธีการลงทุนแบบ VI ส่วนตัวจะพยายามฝึกฝนตามความรู้ที่ได้รับ เพื่อให้มีความมั่นใจมากขึ้นครับ

2. ส่งการบ้านหุ้น 5 ตัว 

2.1) มีหุ้นตัวไหนบ้าง

- cpall

- advanc

- mint

- kbank

- sabina

2.2) มีส่วนลดเท่าไหร่ (MOS)

p/bv mos

- cpall 41.21%

- advanc 33.44%

- mint 52.13%

- kbank 69.79%

- sabina 24.79%

2.3) ระบุประเภทหุ้น (ใส่ได้มากกว่า 1 ประเภท)

- cpall แข็งแกร่ง

- advanc โตช้า

- mint ฟื้นตัว

- kbank วัฏจักร

- sabina โตเร็ว

2.4) เหตุผลที่ซื้อในเชิงคุณภาพ

- cpall เป็นผู้ชนะในอุดสาหกรรม ผบห.เก่ง วางแผนการขยายตัวของธุรกิจได้ดี

- advanc เป็นผู้ชนะในอุตสาหกรรม น่าจะได้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5g

- mint น่าจะฟื้นตัวได้เร็วหลังวิกฤต covid19

- kbank สถานะของธุรกิจแข็งแกร่ง มีส่วนลดเยอะ

- sabina บริหารดี รักษาการเติบโตได้ดี

1. สิ่งที่ได้จากคอร์สนี้ คือทำให้เข้าใจการลงทุนในหุ้นมากขึ้น สร้างเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน ทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้ เข้าใจการลงทุนแบบVI ฝึกการประเมินหุ้นทั้งในด้านคุณภาพ ปริมาณ และมูลค่า
2. ส่งการบ้านหุ้น 5 ตัว

1) ADVANC 20%  p/bv mos 33.44 % เป็นหุ้นโตช้าที่มีความแข็งแกร่ง เนื่องจากเป็นผู้ชนะในอุตสาหกรรม และยังสามารถเติบโตต่อได้จากการขยายธุรกิจ และการสร้างเครื่องมือหารายได้ใหม่

2) CPALL 20%  p/bv mos 37 % เป็นหุ้นแข็งแกร่ง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม อำนาจต่อรองสูง วางแผนการขยายตัวของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

3) CPN 20%  p/bv mos 35.31% เป็นหุ้นแข็งแกร่ง มีการบริหารจัดการที่ดี มีการปรับตัวของธุรกิจเพื่อให้ตอบโจทย์กับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงไป 

4) SAWAD 20%  p/bv mos 58.72% เป็นหุ้นโตเร็ว มีการเติบโตดี ขยายธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ

5) KBANK 20%  p/bv mos 69.79% เป็นหุ้นวัฏจักร ตอนนี้น่าจะอยู่ในช่วงต่ำสุดของวัฏจักร มีการบริหารจัดการที่ดีน่าจะสามารถผ่านวิกฤตไปได้

                                                                                                                       นาง(วรณัน)

1. ให้ทุกท่านช่วยสรุป เราได้อะไรจากคอร์สนี้บ้าง

ตอบ   

สิ่งที่ได้จากการเรียนคือ

1. เข้าใจเรื่องของประเภทหุ้น ว่าหุ้นแต่ละตัว คือหุ้นประเภทอะไร และธรรมชาติของหุ้นประเภทนั้นๆ ให้ผลตอบแทนเท่าไหร่
2. รู้จักการตั้งเป้าหมาย เพราะการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน จะทำให้เลือกหุ้นได้ถูกตัว ตามแผนที่วางไว้
3. รู้ที่มาที่ไปของงบการเงิน ทำให้อ่าน และประเมินคุณภาพของหุ้นที่เลือกได้อย่างเข้าใจมากยิ่งขึ้น
4. ได้ประสบการณ์จากการลงมือทำ ได้กลับมารื้อฟื้น excel อีกครั้ง หลังไม่ได้ใช้มา 15-16 ปี และงานจับกลุ่มทำให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น
5. ชอบวิธีคิด มุมมอง ของอาจารย์ และเพื่อนๆ ในคลาส ทำให้รู้สึก เหมือนได้เปิดโลกอีกใบ

2. ส่งการบ้าน หุ้น 5 ตัว

2.1) มีหุ้น ตัวไหนบ้าง

ตอบ   1.CPALL 30%   2.ADVANC 30%   3.MINT 10%   4.MTC 10%   5.KBANK 20%

2.2) มีส่วนลดเท่าไหร่ (MOS)

1. CPALL      ส่วนลด   MOS P/BV 35% 
2. ADVANC  ส่วนลด    MOS P/BV 31% 
3. MINT       ส่วนลด    MOS P/BV 59% 
4. MTC         ส่วนลด    MOS P/BV 28% 
5. KBANK     ส่วนลด   MOS P/BV 73% 

2.3) ระบุประเภทหุ้น (ใส่ได้มากกว่า 1 ประเภท)

ตอบ   

    1. CPALL          ประเภท หุ้นแข็งแกร่ง

2. ADVANC      ประเภท หุ้นโตช้า
3. MINT           ประเภท หุ้นแข็งแกร่ง , หุ้นฟื้นตัว
4. MTC             ประเภท หุ้นวัฏจักร ,หุ้นเติบโต
5. KBANK        ประเภท หุ้นวัฏจักร

2.4) เหตุผลที่ซื้อในเชิงคุณภาพ

ตอบ 

1. CPALL

- ซื้อเพราะ CPALL เป็นบริษัทค้าปลีกที่แข็งแกร่งและครองส่วนแบ่งตลาด เป็นเบอร์ 1 ในตลาดค้าปลีก สร้างผลประกอบการเติบโตได้ต่อเนื่องตลอดหลายปี และมีการลงทุนต่อยอดธุรกิจ ในตลาดต่างประเทศ ประกอบกับช่วงนี้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ทำให้ ราคาของ CPALL ลงมาจนมีส่วนลดในสัดส่วนที่น่าสนใจลงทุน และในอนาคตมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก จากการเข้าซื้อ MAKRO และ TESCO LOTUS และ ค่อนข้างมั่นใจ ในผู้บริหารของเครือ เจริญโภคภัณฑ์

2. ADVANC

- ซื้อ เพราะ ADVANCE เป็นบริษัทสื่อสารขนาดใหญ่ มีส่วนแบ่งตลาดเป็นเบอร์ 1 ถึง 48%ลูกค้ายังเหนียวแน่น บริษัทยังเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ เอไอเอส ไฟเบอร์ ยังสร้างฐานลูกค้าใหม่ ได้เพิ่มขึ้น

3. MINT

- ซื้อ เพราะ MINT เป็นบริษัท ที่แข็งแกร่งและใหญ่พอที่จะผ่านพ้นวิกฤติ covid ครั้งนี้ไปได้ แต่ต้องใช้เวลามาก ส่วนลดที่ลดมานั้น ถือว่าน่าลงทุน

4. MTC

- ซื้อเพราะ MTC เป็นหุ้นวัฏจักร และหุ้นเติบโต ที่ยังสามารถขยายได้อีกมาก ด้วยการทำธุรกิจที่ค่อนข้างเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน เป็นผู้นำในตลาดสินเชื่อรายย่อย ที่มีสาขาเยอะมาก และส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่มีทรัพย์สินค้ำประกัน ผลกระทบจากวิกฤติที่กระทบค่อนข้างน้อย และ NPL ต่ำ

5. KBANK

- ซื้อเพราะ KBANK เป็น ธนาคารขนาดใหญ่ ผลประกอบการดีต่อเนื่อง มีทุนสำรองมากพอให้สามารถผ่านวิกฤติ ไปได้อย่างแน่นอน และบริษัท ยังลงทุนในเทคโนโลยีทางการเงินใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ชอบเป็นการส่วนตัว ในเรื่องของระบบรับเงินจากประเทศจีน สามารถรองรับได้ทั้ง Alipayและ WeChat pay ซึ่งทำระบบได้สะดวกต่อการใช้งาน ซึ่งในอนาคตถ้าการท่องเที่ยวฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง ระบบนี้จะสามารถสร้างรายรับให้บริษัทได้อย่างมากแน่นอน ประกอบกับส่วนลดที่ได้ในปัจจุบัน ทำให้น่ลงทุนอย่างมากในกลุ่มหุ้นวัฏจักร

@chut-nakornchai อ้อ เข้าใจแล้วครับ 555+

หุ้นที่หมอชัชเลือกมาผมชอบทุกตัวนะครับ รวมถึงกลยุทธ์ในการเลือกหุ้นแบงค์ 2 ตัว กระจายกันไป
แต่ก็ย้ำอีกครั้งนะครับเรื่องหุ้นแบงค์ ว่าเราคงถือยาวๆไม่ได้ และส่วนตัวผมเองก็ไม่มั่นใจว่าหุ้นแบงค์จะสามารถกลับไปมี P/BV สูงกว่า 2 เท่าได้อีกรึเปล่า เหมือนๆกับราคาน้ำมันที่ไม่น่าจะสามารถกลับไปยืนอยู่ในระดับสูงได้อีกแล้ว เนื่องการถูกกดดัน (ถ่วงดุลย์) ด้วยรถไฟฟ้า และพลังงานทางเลือกครับ
ดังนั้น ผมคิดว่า P/BV 1 เท่า จะเป็นเป้าหมายสำหรับการ Exit สำหรับผมนะครับ

@manot หุ้นทั้ง 5 ตัวที่เลือกมามีการกระจายความเสี่ยงที่หลากหลายอุตสาหกรรมดีมากเลยครับ

แต่ผมอาจจะคอมเม้นท์เรื่อง MOS นิดนึงครับว่าดูจะสูงเกินจริงไปหน่อยครับ ไม่ทราบว่าใช้ข้อมูลย้อนหลังมากน้อยแค่ไหนนะครับ และได้มีการตัดตัวเลข "สูงสุด" และ "ต่ำสุด" ออกไปรึเปล่าครับ
ยังไงลองตรวจสอบดูเพิ่มเติมหน่อยนะครับผม 

@sirimonporn-saowalak-suriyawongpaisal

ผมเห็นแต่ตาราง Lv.1 ในการหาส่วนลดนะครับ ไม่ทราบว่าพี่ปุ๊เลือกหุ้น 5 ตัว เป็นตัวไหนบ้างนะครับผม

@seehachet-saifon

ตอบคุณอิฐนะครับ พอร์ตจริงๆก็ดูสวยเลยนะครับ (หลังจาก Balancing แล้ว)

แล้วก็อาจจะย้ำเตือนเรื่อง EKH เพิ่มเติมนะครับว่าถ้าควรคอยตรวจสอบผลตอบแทนระยะยาวของหุ้นตัวนี้อยู่เรื่อยๆ (หลังจากผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปก่อนนะครับ) เพื่อคอยเช็คว่าผลตอบแทนยังสอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุนของเราอยู่รึเปล่าครับ แล้วก็อย่าลืมนะครับว่าหุ้นกลุ่มธนาคารเราคงไม่สามารถถือระยะยาวตลอดไปได้ และผมเชื่อว่าธนาคารอาจจะไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือ P/BV มากกว่า 2 เท่าได้ เนื่องจากโดนกดดันด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ เหมือนราคาน้ำมันที่ไม่มีทางจะขึ้นไปยืนราคาสูงๆได้อีกต่อไปเนื่องจากโดนกดดันด้วยรถไฟฟ้า และพลังงานทางเลือกครับ