Posted by: @satjatham-polsaen

สวัสดีครับ อาจารย์

อ้างอิงจากข่าวเพจข้างล่างโชคดีที่ผมไม่มี ESSO ไม่งั้นผมเองคงทำตัวไม่ถูกว่าต้องทำตัวอย่างไร (เพราะไม่เข้าใจผลกระทบธุรกิจ) มันดีหรือมันแย่อย่างไร

และมันสร้างโอกาสให้คนที่ไม่มี ESSO เข้าไปซื้อช่วงนี้ เพื่อสร้าง อาร์บิทาจ จากการขายตอน tender offering ได้ มั้ย ถ้าราคาต่ำเกินไป (ไม่แน่ใจว่าใช้คำนี้ได้ในกรณีแบบนี้รึเปล่านะครับ)

และมันจะเกิดผลเสียอย่างไรหากผมมีหุ้น ESSO และไม่ขายกรณีมี Tender offer ถ้า ESSO ยังสร้างเงินสดได้และมีการจ่ายปันผลและคุ้มค่าที่จะถือ ถึงหลัง Tender จะมีการเอา ESSO  ออกตลาด

และถ้ากรณีรายย่อยไม่ขายเลย BCP สามารถเอา ESSO ออกนอกตลาดได้มั้ย หรือ BCP ต้องทำอย่างไรต่อ

และถ้ามองในมุมของผู้ถือหุ้น BCP หลังการซื้อ กำไรต่อหุ้น ของผู้เถือหุ้น BCP  เดิมก็ต้องสูงขึ้นจาก กำไรของ ESSO หาก ESSO สร้างกำไรได้ และ BCP ไม่ได้ซื้อแพงเกินไป (หมายถึงว่า กำไรที่เพิ่มขึ้นคุ้มกับเงินสดที่หายไปจากสินทรัพย์ หรือคุ้มกับดอกเบี้ย หากต้องกู้) แบบนี้ก็ดีกับผู้ถือ BCP ถูกมั้ยครับ 

 

ผมไม่แน่ใจว่าอาจารย์จะเข้าใจคำถามผมมั้ย ผมไม่ค่อยเข้าใจ เลยไม่รู้จะถามยังไงครับ  เลยจะรบกวนอาจารย์ช่วยอธิบายข้อดีข้อเสียของผู้ถือหุ้นทั้งสองฝ่ายหน่อยครับ ขอบคุณมากครับ

 

 

 

 

ข่าวจากเพจตามข้างล่าง

ESSO ราคาร่วง 13.51%

หลังขายกิจการปั๊มให้ BCP

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO เวลา 10.41 น. อยู่ที่ราคา 9.60 บาท/หุ้น ปรับลดง 1.50 บาท หรือคิดเป็นลดลง 13.51%

ขณะที่ราคาหุ้น บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP วันนี้ (12 ม.ค.2566) เวลา 10.06 น. อยู่ที่ราคา 34.00 บาท/หุ้น ปรับเพิ่มขึ้น 2.25 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 7.09%

หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ครั้งที่ 1/2566 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 11 ม.ค.2566 มีมติอนุมัติการเข้าทำรายการ และเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทพิจารณาและอนุมัติการเข้าทำรายการ

(1) การเข้าซื้อหุ้นสามัญโดยตรงจำนวน 2,283,750,000 หุ้น ในบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO (คิดเป็นประมาณ 65.99% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ ESSO ณ วันที่ 30 ก.ย.2565) จากผู้ขาย ได้แก่ ExxonMobil Asia Holdings Pte. Ltd. โดยบริษัทได้ทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับผู้ขายเมื่อวันที่ 11 ม.ค.2566

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถทำการซื้อรายหุ้นได้ภายในระยะเวลา 12 เดือน หลังจากวันที่ของสัญญาขายหุ้น

(2) การทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญที่เหลือทั้งหมดใน ESSO เป็นจำนวนไม่เกิน 1,177,108,000 หุ้น (คิดเป็นประมาณ 34.01% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ ESSO ณ วันที่ 30 ก.ย.2565) ภายหลังจากที่ธุรกรรมการซื้อขายหุ้นเสร็จสิ้น ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของ ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ. 12/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการใน การเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ (ตามที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม) เพื่อได้มาซึ่งหุ้นที่เหลือทั้งหมดใน ESSO ในราคาเดียวกันกับราคาซื้อหุ้น ESSO ในธุรกรรมซื้อขายหุ้น

1. ในรายงานของบางจาก มีการทดลองคำนวณราคาที่ซื้อซึ่งจากในตัวอย่างอยู่ที่ 9.63 (Q2/65), 8.84 (Q3/65) เลยทำให้ราคา ESSO เลยลงมา 9.20 ผมว่าตราบใดที่ราคายังไม่เคาะ ก็ยังดูเสี่ยงอ่ะครับ เพราะธุรกิจปั๊มน้ำมันนี่ผมว่าคาดการกำไรแทบไม่ได้เลยยากสุดๆ กำไรแกว่งได้กว้างเป็นทะเลเลย ผมก็ไม่รู้ว่าจะคาดการณ์ยังไงครับ ต่างจากดีล TRUE ที่ผมคิดว่ารายได้นิ่งกว่ามาก สามารถทำ ARBITRAGE ได้ง่ายกว่ามาก ซึ่งผมเคย live ไปแล้ว แล้วก็ทำ ARBITRAGE ได้พอสมควรเลย

2. ในมุม BCP น่าจะดีแน่ๆอยู่แล้วครับ 

3. การถือหุ้นต่อ โดยไม่ขาย tender ก็ได้ครับ แต่ก็จะมีปัญหาหลักๆเรื่องสภาพคล่อง เช่น ขายไม่ได้ ไม่มีใครซื้อ อาจยิ่งต้องขายถูกลงอีก อาจเกิดมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในอนาคตโดยยิ่งริดรอนโอกาสของ minority ก็ได้ครับ โดยธรรมชาติเค้าไม่ค่อยทำกันอ่ะครับ เพราะความเสี่ยง unlimit

@prapas-b88 ขอบคุณมากๆครับอาจารย์