สอบถามครับ ในบรรทัดนี้คือการขาดทุนจากสินค้าเสื่อมคุณภาพจริงใช่ไหมครับ
แต่ในงบก็ต้องบวกกลับเข้ามา ก็เท่ากับว่าเงินจำนวนนี้คือเงินที่บ.เสียไปผมเข้าใจถูกไหมครับหรือว่ายังไงครับ
สอบถามครับ ในบรรทัดนี้คือการขาดทุนจากสินค้าเสื่อมคุณภาพจริงใช่ไหมครับ
แต่ในงบก็ต้องบวกกลับเข้ามา ก็เท่ากับว่าเงินจำนวนนี้คือเงินที่บ.เสียไปผมเข้าใจถูกไหมครับหรือว่ายังไงครับ
ขาดทุนจากสินค้าเสื่อมคุณภาพ ถือเป็นรายจ่าย เนื่องจาก เราจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าคงเหลือไว้แล้วถูกไหมครับ พอมันเสื่อม เราก็ต้องนำมาคิดเป็นค่าใช้จ่ายนั่นเองครับ
ส่วนในงบกระแสเงินสดนั้น ก่อนที่จะมาเป็นสินค้า เราได้ "จ่าย" ค่า "สินค้าคงเหลือ" ไปก่อนแล้ว แต่เมื่อยังไม่ได้ขาย ก็จะยังไม่อยู่ใน "งบกำไรขาดทุน" ครับ ดังนั้น พอสินค้าเสื่อม เราจึงต้องบวกกลับ เพราะเรา "จ่าย" ไปตั้งแต่ตอนแรกที่เป็นสินค้าคงเหลือแล้ว ดังนั้น เราจึงไม่ได้จ่ายเงินออกไปจริงๆในตอนหลังครับ
เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณครับอาจารย์
แต่ตัวเลขนี้ก็เพิ่มขึ้นมาจากปีก่อนเท่าหนึ่ง ก็เลยอดคิดไม่ได้ว่าหากสูงขึ้นเป็นเท่าทุกๆปีกำไรก็น่าจะน้อยลงพอสมควร
แต่ไม่เป็นไรตามต่อไปใจเย็นๆ ขอบคุณครับ
@prapas-b88 ขอคำถามนี้ใน Q&A ด้วยครับ (เมตตาด้วยครับอาจาย์ อิอิ)
@prapas-b88 ขอคำถามนี้ใน Q&A ด้วยครับ (เมตตาด้วยครับอาจาย์ อิอิ)
Q&A ตอนไหนนะครับ ตอนสัมภาษณ์ผบห.เหรอครับ
สอบถามครับ ในบรรทัดนี้คือการขาดทุนจากสินค้าเสื่อมคุณภาพจริงใช่ไหมครับ
แต่ในงบก็ต้องบวกกลับเข้ามา ก็เท่ากับว่าเงินจำนวนนี้คือเงินที่บ.เสียไปผมเข้าใจถูกไหมครับหรือว่ายังไงครับ
ผมถาม ir มาให้แล้วครับ (≧▽≦)
มีความเห็นอย่างไรบ้างครับ
@solona ขอบคุณที่หาคำตอบให้นะครับ แต่อย่างที่อาจารย์หรือบริษัทบอกมันเป็นตัวเลขของการตั้งค่าเสื่อมของสินค้าซึ่งบริษัทน่าจะจัดการได้และก็เป็นเรื่องธรรมชาติของธุรกิจ Food service แต่ก็ขอบคุณนะครับ
สอบถามครับ ในบรรทัดนี้คือการขาดทุนจากสินค้าเสื่อมคุณภาพจริงใช่ไหมครับ
แต่ในงบก็ต้องบวกกลับเข้ามา ก็เท่ากับว่าเงินจำนวนนี้คือเงินที่บ.เสียไปผมเข้าใจถูกไหมครับหรือว่ายังไงครับ
ผมถาม ir มาให้แล้วครับ (≧▽≦)
มีความเห็นอย่างไรบ้างครับ
ผมว่าเค้าน่าจะต้องตั้งด้อยค่าตามผู้สอบบัญชีให้ตั้งด้วยส่วนนึงนะครับ
แต่ถ้านำมาขายได้ก็จะกลายเป็นรายได้ในภายหลัง แบบนี้ก็ค่อนข้างดีนะครับ เดาว่าเค้าคงเอามาเลหลังขายถูกลงแต่ก็จะกลายเป็นกำไรแทน เพราะตัดต้นทุนเป็นขาดทุนสินค้่าเสื่อมคุณภาพไปแล้วนั่นเอง