ถ้าอ่านตามที่ลงทุนแมนเขียน
ธุรกิจนายหน้าประกันภัยก็ไม่เลวทีเดียวและตอนนี้
tqmน่าจะยังเป็นเบอร์หนึ่งอยู่
และมีโอกาสเติบโตไปได้เรื่อยเรื่อย
แต่ ตามที่อาจารย์บอกก็คือ ตลาดหุ้นrerate pe tqm ลงมา เพราะ ผู้บริหารลดเป้าหมายลงมามาก
ถ้าอ่านตามที่ลงทุนแมนเขียน
ธุรกิจนายหน้าประกันภัยก็ไม่เลวทีเดียวและตอนนี้
tqmน่าจะยังเป็นเบอร์หนึ่งอยู่
และมีโอกาสเติบโตไปได้เรื่อยเรื่อย
แต่ ตามที่อาจารย์บอกก็คือ ตลาดหุ้นrerate pe tqm ลงมา เพราะ ผู้บริหารลดเป้าหมายลงมามาก
ขณะเดียวกันก็มีคู่แข่งที่น่ากลัว เช่นพวกที่มี insure techและ tqm ก็ไม่มีbarriers to entry เลยตอนนี้ขาดทุนอยู่สูงถึง 33% โอกาสจะเท่าทุนได้คงยากมากแค่รอจังหวะที่จะขาดทุนน้อยกว่านี้หน่อยแล้วค่อยขายทิ้งหมอชัชก็บอกว่าดูเทคนิคแล้วอาจจะrebound ได้บ้าง 555
ผมอ่านแล้วยังไม่เจอคำถาม เหมือนพี่ปุ๊เล่าให้ฟังเฉยๆรึเปล่าครับ 555+
@prapas-b88 ความจริงอาจารย์ก็ให้ความเห็นหุ้นตัวนี้ไว้หลายครั้งแล้ว
ขอทราบความเห็นว่าถ้าไม่ร้อนเงิน รอขายตอนขาดทุนน้อยกว่านี้หน่อยจะเป็นยังไงคะ
คือถ้าเป็นอาจารย็เองจะขายทิ้งที่ทุกราคา
คนทุนน้อยอย่างพี่ทำไงดีคะ
ขายท้ิงVGIไปตั้งเยอะแล้ว แหะๆ
คือเหมือนกับก็ไม่ใช่หุ้นที่เลวร้ายมาก เ?? ยกเว้นผบห แหะๆ
เช่นที่มีกระแสรถVIก็อาจช่วยให้ขายประกันรถได้มากขึ้นหน่อยนึง??
@prapas-b88 ความจริงอาจารย์ก็ให้ความเห็นหุ้นตัวนี้ไว้หลายครั้งแล้ว
ขอทราบความเห็นว่าถ้าไม่ร้อนเงิน รอขายตอนขาดทุนน้อยกว่านี้หน่อยจะเป็นยังไงคะ
คือถ้าเป็นอาจารย็เองจะขายทิ้งที่ทุกราคา
คนทุนน้อยอย่างพี่ทำไงดีคะ
ขายท้ิงVGIไปตั้งเยอะแล้ว แหะๆ
ส่วนตัวผมคิดว่าไม่เกี่ยวกับเงินน้อยหรือเยอะเลยนะครับ
ผมเองตอนมีเงิน 5 แสนบาท แล้วขาดทุนทั้งพอร์ต 3 แสนบาท เหลือเงิน 2 แสนบาท
ก็เรียกเต็มปากว่าพอร์ตเล็กเหมือนกัน แต่หากวันนั้นผมไม่ตัดสินใจขาย วันนี้พอร์ตผมก็คงใหญ่ขึ้นไม่ได้ครับ
เพราะหุ้นที่ผมตัดสินใจขายไปนั้น วันนี้ราคาก็ยังย่ำอยู่กับที่มา 14 ปีแล้วครับ
จากบทเรียนนี้ผมเลยเรียนรู้ว่าถ้าผิดผมต้องขายทุกราคาครับ
เพราะต้นทุน "เวลา" สำคัญกว่า "เงิน" ครับ
หากเราทำให้ "เวลา" เกิดผลตอบแทนได้ดีขึ้น มันจะชดเชย "เงิน" ที่หายไปในวันนั้นได้ครับ
ตรงข้าม มีตัวอย่างหลายตัวอย่างที่ไม่ยอมขาย บริษัทพื้นฐานเปลี่ยนไปอย่างถาวร
ราคาก็ไม่กลับมาหรอกครับ
เคส TQM เดิมเป้าหมายเติบโต 20% ต่อปี ล่าสุดลดเหลือ 5-10% ต่อปี
คำถามคือสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ชั่วคราว หรือถาวรครับ?
ผมยกตัวอย่างอีกเคสนึงที่ใกล้ตัวนะครับ
ก็คือเบิร์ดเองก็มีทั้ง TQM และ VGI และเบิร์ดก็ขาย Cut Loss ทั้งคู่
แล้วมาซื้อ IIG, DOHOME เต็มที่ ตอนที่ราคาต่ำสุด พี่ปุ๊คิดว่าผลลัพธ์ของเบิร์ดเป็นยังไงครับ
เห็นไหมครับว่าการตัดสินใจนั้นสำคัญมาก และไม่เกี่ยวกับขนาดของพอร์ตเลยครับ
เป็นเรื่องแนวคิดต่างหากครับ หากแนวคิดผิดพลาด ก็ยากมากที่พอร์ตจะโตครับ
เพราะพอเราขาดทุน เราไม่กล้าขาย และเป็นพื้นฐานแย่ลงถาวร ก็แปลว่าราคาอาจจะไม่กลับมา ถ่วงพอร์ตไปเรื่อยๆครับ