Forum

Notifications
Clear all

การ Scan หุ้น เมื่อถึงวันที่ไม่เหลือหุ้นที่ P/BV MOS ถึง 30%


pop
 pop
(@pop)
Trusted Member
Joined: 3 years ago
Posts: 43
Topic starter  

อาจารย์ครับ Topic นี้ ผมคิดเผื่อๆ ไว้เฉยๆ นะครับ อาจจะเกิด หรือไม่เกิดก็ได้

ตามที่อาจารย์สอนในคอร์สเรื่องการ Scan หุ้น ซึ่งทุกวันนี้ผมใช้อยู่ คือ
- ดูรายได้/กำไร เติบโตต่อเนื่อง 8-10 ปี
- ROE > 15% ต่อเนื่อง +ดู D/E และ ROIC ประกอบ
- มี P/BV MOS 30%
เมื่อผ่านเกณฑ์ ก็ไปศึกษาคุณภาพธุรกิจ เพื่อตัดสินใจลงทุน

แต่ถ้าเศรฐกิจฟื้น จนไม่เหลือ MOS เราจะใช้หลักการอะไรในการ Scan หุ้นครับอาจารย์ ?
หรือเราต้องลด MOS ลงเหลือ 20% ? 
หรือไม่เราก็ต้องเปลี่ยนไปประเมินจาก Forward P/E เทียบกับ Fair P/E ตามที่อาจารย์ Live ในช่วงหลังๆ แทน?

รบกวนอาจารย์ด้วยนะครับ


(@prapas-b88)
Noble Member Admin
Joined: 3 years ago
Posts: 1492
 
Posted by: @pop

อาจารย์ครับ Topic นี้ ผมคิดเผื่อๆ ไว้เฉยๆ นะครับ อาจจะเกิด หรือไม่เกิดก็ได้

ตามที่อาจารย์สอนในคอร์สเรื่องการ Scan หุ้น ซึ่งทุกวันนี้ผมใช้อยู่ คือ
- ดูรายได้/กำไร เติบโตต่อเนื่อง 8-10 ปี
- ROE > 15% ต่อเนื่อง +ดู D/E และ ROIC ประกอบ
- มี P/BV MOS 30%
เมื่อผ่านเกณฑ์ ก็ไปศึกษาคุณภาพธุรกิจ เพื่อตัดสินใจลงทุน

แต่ถ้าเศรฐกิจฟื้น จนไม่เหลือ MOS เราจะใช้หลักการอะไรในการ Scan หุ้นครับอาจารย์ ?
หรือเราต้องลด MOS ลงเหลือ 20% ? 
หรือไม่เราก็ต้องเปลี่ยนไปประเมินจาก Forward P/E เทียบกับ Fair P/E ตามที่อาจารย์ Live ในช่วงหลังๆ แทน?

รบกวนอาจารย์ด้วยนะครับ

ยินดีครับคุณป็อป

1. ในอดีตที่ผ่านมา จากประสบการณ์ผม ในแต่ละปี มักจะมีเหตุการณ์เชิงลบ ที่กระทบต่อธุรกิจในอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันไปในแต่ละปีอยู่แล้วครับ ดังนั้นหากเราทำงานอย่างต่อเนื่อง จะมีหุ้นราคาถูกๆให้เราซื้ออยู่เสมอครับ

2. นอกจากเหตุการณ์เชิงลบแล้ว ยังมีการเก็งกำไรของนักเก็งกำไรที่จะทำให้เกิดแรงซื้อ และแรงขาย ที่ผิดปกติ จนทำให้ราคาหุ้น 1 ตัว Swing ใน 1 ปีประมาณ 15-30% ขั้นต่ำ และมากถึง 100-300% ในแต่ละปีเลยครับ และหากเราสังเกตมากพอเราก็จะพอเห็นครับว่าราคาหุ้นบางตัวมันได้ลงมามากๆ จนทำให้เรานั้นสนใจและเข้าไปศึกษาคุณภาพว่า ทำไมราคาถึงได้ลงมามากขนาดนี้ และมักจะเป็นหุ้นดีราคาถูก ที่เราสามารถซื้อได้เช่นกันครับ

3. เรื่องหา F P/E เป็นวิธีที่ "ต้อง" ใช้กับหุ้นเติบโตเป็นหลักเลยครับ ไม่ว่าจะสถานการณืไหนก็ตาม

4. เรื่องการลด MOS ลงนั้น หากจำเป็นก็อาจต้องทำครับ ถ้าหากว่าเราต้องการลงทุนแต่หุ้นบางประเภท เช่น โตช้า, แข็งแกร่ง เป็นต้น และเรามีความจำเป็นต้องลงทุนเนื่องจากมีเงินประจำเข้ามาทุกๆเดือนนั่นเองครับ

5. ในช่วงนี้ สิ่งที่เปลี่ยนไปจากประสบการณ์ของผมก็คือ "สภาพคล่อง" ครับ สภาพคล่องที่ล้นมากของตลาด หมายถึงการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนหน้าใหม่ๆ ที่มีอย่างมหาศาลในปีที่ผ่านมา เป็นผลทำให้ราคาหุ้นกลับมาถึงก่อนเกิด Covid ใช้เวลาเพียง 10 เดือนเท่านั้น ซึ่งต่างจากรอบที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิงครับ ตอนปี 2008-2009 นั้นใช้เวลาในการกลับมาราคาเท่าก่อนเกิดวิกฤตถึง 2 ปี เหตุการณ์นี้จะทำให้การหาหุ้นถูกๆลงทุนยากขึ้นอย่างมากแน่นอนครับ แต่ผมก็ยังเชื่ออย่างนึงครับว่า นักลงทุนที่เข้ามารอบนี้ "ไม่ใช่ของจริง" ทั้งหมดครับ แต่เพียงแค่บางส่วนเท่านั้น และหากเกิดวิกฤตในอนาคต ก็อาจจะเป็นไปได้ที่ตลาดหุ้นอาจจะกลับมาอยู่ในสภาพใกล้เคียงเดิมก็ได้ครับ 


   
ReplyQuote
Share:
Protected by CleanTalk Anti-Spam