การตั้งสมมติฐานการเติบโตของหุ้นนั้นๆ
คาดการณ์แค่ปีหน้า
1.(Base Case)โตได้ 10% บนสมมติฐานเดิม ไม่มีเหตุการณ์พิเศษหรืออุบัติเหตุณ์ใดๆ
2.(Best Case)โตได้ 15% ได้รับผลบวกจาก นักท่องเที่ยวทื่เพิ่มขึ้น(ข้อมูลจาก www.mots.go.th)การใช้จ่ายของประชากรในประเทศเพิ่มมากขึ้น(ข้อมูลจาก bot.or.th) บริษัท ออกสินค้าใหม่ติดตลาด (ข้อมูลจาก Oppday)และลงพื้นที่
3.(Worst Case)โตลดลงเหลือ 7% เนื่อง นักท่องเที่ยวไม่มาตามนัดหรือลดลง การใช้จ่ายลดลง เงินเฟ้อเพิ่มมากขึ้น
การตั้งสมมติฐานแบบนี้ใช้ได้ไหมครับหรือต้องมีเหตุผลที่มากกว่านี้ครับ หรืออย่างไรรบกวนขอคำแนะนำด้วยครับ------------------------------------------------------------
ปล.บางคำถามผมสามารถหาได้จาก google/youtube แต่ผมไม่ทราบว่าข้อมูลนั้นมันถูกต้องหรือมั่วนิ่มผมขอเอาคำถามง่ายๆเหล่านั้นมาถามอาจารย์นะครับเพราะมันทำให้ผมมั่นใจว่ามันถูกต้องครับ
จริงๆผมคิดว่ามันก็เป็นการตั้งสมมุติฐานที่ดีแล้วนะครับ
เรื่องนี้ผมคิดว่ามันเป็นศิลปะมากๆเลยครับ ผมจะลองยกตัวอย่างแนวคิดของผมให้ดูนะครับ
1. Growth Goal ข้อนี้ผมจะต้องฟังจากปากของผู้บริหารเท่านั้น ซึ่งจะมาในหลายรูปแบบ เช่น การขยายสาขา, เป้ายอดขาย, ฯลฯ
2. Best-Base-Worst Case ข้อนี้เป็นศิลปะมากๆ ในกรณีที่
2.1 เรามีความเข้าใจอุตสาหกรรมนั้นมากแค่ไหน เข้าใจว่ามีความ "ผันผวน" มากแค่ไหน
2.2 เรามีประสบการณ์ที่ผู้บริหารรับปากแล้วทำได้ตามเป้ามากแค่ไหน เป็นต้นครับ
ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์ในการฟัง oppday ติดตามผลประกอบการ สักระยะนึงเราก็จะพอจับทาง ผบห. คนนั้นได้ว่าจะทำได้ตามเป้าแค่ไหน เป็นต้นครับ
เรื่อง การขึ้นดอกเบี้ย
สมมติอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจาก 2% เป็น 2.25% (เพิ่มขึ้น 12.5%) แบบนี้ ดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทจะเพิ่มขึ้น 12.5% ด้วยหรือเปล่าครับ หรือมีวิธีคิดอย่างไรครับ
ขอบคุณครับ
เรื่อง การขึ้นดอกเบี้ย
สมมติอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจาก 2% เป็น 2.25% (เพิ่มขึ้น 12.5%) แบบนี้ ดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทจะเพิ่มขึ้น 12.5% ด้วยหรือเปล่าครับ หรือมีวิธีคิดอย่างไรครับขอบคุณครับ
ไม่เสมอไปครับ ต้องเข้าไปตรวจสอบหนี้สินของบริษัทก่อนครับว่าเป็น Floating or Fixed Rate ครับ หนี้แต่ละก้อนก็มีเงื่อนไขแตกต่างกันด้วยครับ
ในหมายเหตุประกอบงบไม่มีบอกว่าเป็น Fixed หรือ Floating เราจะรู้ได้อย่างไรว่าหนี้ก้อนไหนเป็น Fixed หรือ Floating ครับ
**ภาพที่แนบมาเป็นของ DOHOME Q3/65 ครับ**
ขอบคุณครับ ☕
ในหมายเหตุประกอบงบไม่มีบอกว่าเป็น Fixed หรือ Floating เราจะรู้ได้อย่างไรว่าหนี้ก้อนไหนเป็น Fixed หรือ Floating ครับ
**ภาพที่แนบมาเป็นของ DOHOME Q3/65 ครับ**
ขอบคุณครับ ☕
อาจต้องสอบถาม IR ครับ
1. เวลาเราจะอัพเดทงบแต่ละบริษัทเราควรดูงบเต็มทุกบริษัทก่อนด้วยใช่ไหมครับเพราะบางบริษัทมีกำไรพิเศษ
2. ใน template บรรทัด"Net Profit(Loss)" ไม่ได้หักกำไรพิเศษออกใช่ไหมครับ
3. SABUY "กำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในตราสารทุน" 902 (ล้าน) ใชไหมครับ
4. "กำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในตราสารทุน" คืออะไรครับ และเป็นแค่ตัวเลขเฉยๆไม่ใช่เงินจริงๆใช่ไหมครับ
5. (ดูจากภาพที่แนบไปครับ) รายการที่ ไฮไลท์สีเขียวเอาไว้ถือเป็นกำไรพิเศษทั้งหมดหรือไม่ครับ
6. (ดูจากภาพที่แนบไปครับ) ถ้าเอารายการที่ไฮไลท์มาลบกับกำไรก็จะกลายเป็นขาดทุนไปเลยผมเข้าใจถูกไหมครับหรืออย่างไร
ขอบคุณครับ 🍵
1. เวลาเราจะอัพเดทงบแต่ละบริษัทเราควรดูงบเต็มทุกบริษัทก่อนด้วยใช่ไหมครับเพราะบางบริษัทมีกำไรพิเศษ
2. ใน template บรรทัด"Net Profit(Loss)" ไม่ได้หักกำไรพิเศษออกใช่ไหมครับ
3. SABUY "กำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในตราสารทุน" 902 (ล้าน) ใชไหมครับ
4. "กำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในตราสารทุน" คืออะไรครับ และเป็นแค่ตัวเลขเฉยๆไม่ใช่เงินจริงๆใช่ไหมครับ
5. (ดูจากภาพที่แนบไปครับ) รายการที่ ไฮไลท์สีเขียวเอาไว้ถือเป็นกำไรพิเศษทั้งหมดหรือไม่ครับ
6. (ดูจากภาพที่แนบไปครับ) ถ้าเอารายการที่ไฮไลท์มาลบกับกำไรก็จะกลายเป็นขาดทุนไปเลยผมเข้าใจถูกไหมครับหรืออย่างไรขอบคุณครับ 🍵
1. ใช่ครับ
2. ถูกต้องครับ
3. ใช่ครับ
4. ซื้อหุ้นแล้วกำไรครับ เลยไม่ใช่เงินจริงๆครับ
5. ใช่ครับ
6. ต้องดูในงบกำไรขาดทุนประกอบด้วยครับ แต่ก็ใกล้เคียงครับ
เรื่อง ดอกเบี้ยจ่ายของ BJC และ DOHOME
ในคลิปคลิปหนึ่ง(จำไม่ได้คลิปไหน) อาจารย์พูดถึงการขึ้นดอกเบี้ยแล้วจะกระทบกำไรอย่างไร
"อาจารย์พูดว่า ดอกเบี้ยจ่ายของ BJC 3% แล้วถ้าดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 20% จะมีผลกระทบประมาณ 0.6% ของรายได้"
คำถามคือ ตัวเลข 0.6% มาจากไหนและวิธีคิดคิดอย่างไรครับ และทำไมตอนอาจารย์กดเครื่องคิดเลข ถึงกดเป็น 0.006 ครับ
"DOHOME ดอกเบี้ยจ่ายคือ 1% ของรายได้ ถ้าเงินกู้เท่าเดิมแล้วดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 20% นั่นแปลว่าจะมีผลกระทบต่อรายได้ 0.2%
คำถามคือ ตัวเลข 0.2% มาจากไหนและวิธีคิดคิดอย่างไรครับ และทำไมตอนอาจารย์กดเครื่องคิดเลข ถึงกดเป็น 0.002 ครับ
ขอบคุณครับ ☕
เรื่อง ดอกเบี้ยจ่ายของ BJC และ DOHOME
ในคลิปคลิปหนึ่ง(จำไม่ได้คลิปไหน) อาจารย์พูดถึงการขึ้นดอกเบี้ยแล้วจะกระทบกำไรอย่างไร
"อาจารย์พูดว่า ดอกเบี้ยจ่ายของ BJC 3% แล้วถ้าดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 20% จะมีผลกระทบประมาณ 0.6% ของรายได้"
คำถามคือ ตัวเลข 0.6% มาจากไหนและวิธีคิดคิดอย่างไรครับ และทำไมตอนอาจารย์กดเครื่องคิดเลข ถึงกดเป็น 0.006 ครับ"DOHOME ดอกเบี้ยจ่ายคือ 1% ของรายได้ ถ้าเงินกู้เท่าเดิมแล้วดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 20% นั่นแปลว่าจะมีผลกระทบต่อรายได้ 0.2%
คำถามคือ ตัวเลข 0.2% มาจากไหนและวิธีคิดคิดอย่างไรครับ และทำไมตอนอาจารย์กดเครื่องคิดเลข ถึงกดเป็น 0.002 ครับขอบคุณครับ ☕
0.6% มาจาก การนำ Impact ของดอกเบี้ยเดิม x กับการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยครับ = 3% x 20% = 0.6% ครับ
ตอนคูณกันเราต้องการทราบถึง impact ของดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น เราต้องนำ 3% คูณกับ 0.2 จึงเท่ากับ 0.6% ครับ
หลักคิดทางคณิตศาสตร์จริงๆเราจะไม่สามารถนำตัวเลขมาคูณกันตรงๆได้เลยครับ
เราต้องเข้าใจหลักการคิดของตัวแปรก่อนว่าเราต้องการคำตอบเป็นอะไรอ่ะครับ
สมมติปีหน้า บริษัท มีการสร้างอาคาร-สาขาใหม่ มีค่าเสื่อมที่ไตรมาสาละ 1 ล้านบาท | 1 ล้านตรงนี้จะอยู่ในงบ PL หรือไม่ครับ หากอยู่จะอยู่ ที่ Cost หรือ silling ครับ หรืออย่างไรครับ
สวัสดีปีใหม่ครับ อาจารย์ ขอให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง นะครับ 😎
สมมติปีหน้า บริษัท มีการสร้างอาคาร-สาขาใหม่ มีค่าเสื่อมที่ไตรมาสาละ 1 ล้านบาท | 1 ล้านตรงนี้จะอยู่ในงบ PL หรือไม่ครับ หากอยู่จะอยู่ ที่ Cost หรือ silling ครับ หรืออย่างไรครับ
สวัสดีปีใหม่ครับ อาจารย์ ขอให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง นะครับ 😎
ค่าเสื่อมจะอยู่ในงบ PL ครับ และมันจะแทรกอยู่ใน Selling Expense ครับ
สวัสดีปีใหม่ครับ 😉
เรื่อง ค่าเงินบาทแข็ง-อ่อน
1.หุ้นที่มีการส่งออกถ้าผมอยากจะทำประมาณรายได้บาทแข็ง-อ่อน เขาจะเป็นอย่างไรมันจะมีวิธีคิดอย่างไรครับ ที่ผมลองพยายามหาวิธีคิดคือ เอารายได้ที่ประมาณการของปีหน้า เช่นปีนี้ 3,000 ล้าน เป้าการเติบโตคือ 15% 3,450 ก็เอามาหาร ค่าเงินเฉลี่ย 34 บาท เราก็จะได้รายได้มาเป็นเงินดอล แล้วเอาเงินดอลไปคูณกับ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ก็จะได้รายได้ในสภวะที่เงินบาทแข็ง งงมั้ยครับ อาจารย์ 555 (ก็คือ สมมติ ปี2565 ค่าเงินเฉลี่ยอยู่ที่ 34 บาท 2565 รายได้ 3,000 ลบ. บริษัทตั้งเป้าการเติบโตที่ 15% 3,450/34 = 101.47 ล้านดอลล์
แข็ง 101.47 × 30 = 3,044
ปกติ 101.47 × 33 = 3,348
อ่อน 101.47 × 36 = 3,652
ปัจจุบัน 101.47 × 34 = 3,450
(ตัวเลขบาทแข็งอ่อนคิดจากค่าเฉลี่ยต้นปีถึงสิ้นปีผมสมมติขึ้นมาเพราะผมไม่ทราบว่าปกติมันอยู่ประมาณไหนครับ ทำเพื่อให้เห็นภาพเฉยๆครับ)
2.ในกรณีที่ บริษัทผู้ผลิต มีการส่งออก 30% ในประเทศ 70% | รายได้จากการส่งออกคิดเป็น 40% ของรายได้ทั้งหมด มีต้นทุนนำเข้าทั้งหมด
เราจะคิดผลดีผลเสียจากค่าเงินอย่างไรครับ
3.(บาทอ่อน)ต้นทุนที่เป็นนำเข้ามันจะชดเชยจากการส่งออกที่ได้ผลบวกจะค่าเงินอ่อนมั้ยครับ
และ ถ้า(บาทแข็ง)มันจะกลับข้างกันมั้ยครับหรือมีตัวแปรอย่างอื่นอีกครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ 🙏🙏
เรื่อง ค่าเงินบาทแข็ง-อ่อน
1.หุ้นที่มีการส่งออกถ้าผมอยากจะทำประมาณรายได้บาทแข็ง-อ่อน เขาจะเป็นอย่างไรมันจะมีวิธีคิดอย่างไรครับ ที่ผมลองพยายามหาวิธีคิดคือ เอารายได้ที่ประมาณการของปีหน้า เช่นปีนี้ 3,000 ล้าน เป้าการเติบโตคือ 15% 3,450 ก็เอามาหาร ค่าเงินเฉลี่ย 34 บาท เราก็จะได้รายได้มาเป็นเงินดอล แล้วเอาเงินดอลไปคูณกับ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ก็จะได้รายได้ในสภวะที่เงินบาทแข็ง งงมั้ยครับ อาจารย์ 555 (ก็คือ สมมติ ปี2565 ค่าเงินเฉลี่ยอยู่ที่ 34 บาท 2565 รายได้ 3,000 ลบ. บริษัทตั้งเป้าการเติบโตที่ 15% 3,450/34 = 101.47 ล้านดอลล์
แข็ง 101.47 × 30 = 3,044
ปกติ 101.47 × 33 = 3,348
อ่อน 101.47 × 36 = 3,652
ปัจจุบัน 101.47 × 34 = 3,450
(ตัวเลขบาทแข็งอ่อนคิดจากค่าเฉลี่ยต้นปีถึงสิ้นปีผมสมมติขึ้นมาเพราะผมไม่ทราบว่าปกติมันอยู่ประมาณไหนครับ ทำเพื่อให้เห็นภาพเฉยๆครับ)2.ในกรณีที่ บริษัทผู้ผลิต มีการส่งออก 30% ในประเทศ 70% | รายได้จากการส่งออกคิดเป็น 40% ของรายได้ทั้งหมด มีต้นทุนนำเข้าทั้งหมด
เราจะคิดผลดีผลเสียจากค่าเงินอย่างไรครับ3.(บาทอ่อน)ต้นทุนที่เป็นนำเข้ามันจะชดเชยจากการส่งออกที่ได้ผลบวกจะค่าเงินอ่อนมั้ยครับ
และ ถ้า(บาทแข็ง)มันจะกลับข้างกันมั้ยครับหรือมีตัวแปรอย่างอื่นอีกครับขอบคุณล่วงหน้าครับ 🙏🙏
1. 555+ ไม่งงครับ ผมว่าวิธีที่ใช้ก็น่าจะสมเหตุสมผลอยู่นะครับ แต่ผมคิดว่าน่าจะนำยอดขายปีนี้ 3000 ล้านมาหารด้วยค่าเงิน 34 บาทก่อน แล้วค่อยนำไปบวก 15% แล้วถึงจะนำไปคูณกับค่าเงินใหม่น่าจะถูกต้องตามหลักการมากกว่านะครับ
2. เคสแบบนี้อาจจะต้องคำนวณ GPM เข้ามาด้วยครับเพราะต้นทุนหรือ Cost เป็น "นำเข้า" ทั้งหมด เช่น GPM 30% แปลว่า ต้นทุนมีสัดส่วน 70% ของต้นรายได้ นั้นเป็นดอลล่าทั้งหมด ส่วนฝั่งรายได้ 40% เป็นดอลล่า นั่นแปลคร่าวๆได้ว่า มี Natural Hedging 40% และยังมีต้นทุนอีก 30% ที่นำเข้า มีความเสี่ยงอยู่ครับ
3. ถ้าต่อเนื่องจากข้อ 2 เค้าจะนำส่วนที่เท่ากันหักล้างกันไปเลยครับ การปฏิบัติก็คือ ขายได้ดอลล่า แล้วเค้าจะไม่แปลงค่าเงินกลับมาครับ รอจ่ายเป็นดอลล่าออกไปเลย ดังนั้นไม่ต้อง convert มาเป็นบาทเลยครับสุดท้ายจะเหลือแต่ส่วนที่เงินดอลไม่มีครับ
1.DOHOME ปีนี้กำไรจะเติบโตได้เพราะ ปี 2022 ขยายได้ 5 สาขา ใช่ไหมครับ
2. 2024 กำไรจะหดรึป่าวครับเพราะปี 2023 ขยายได้แค่ 3 แถมมีรายจ่ายจากการขยายอีก 6 สาขาเพิ่มขึ้นอีก ยังไงรบกวนอธิบายหน่อยครับ
3.อาจารย์พอจะจำตัวเลข(คร่าว)ค่าเสื่อมที่จะเพิ่มขึ้นมาได้ไหมครับ (ไตรมาสละกี่ล้านนะครับ) หลังจากที่มีการต่อเติม DC โกดังเก็บสินค้าอะไรสักอย่าง
4. อาจารย์คิดว่าปีละ 6 สาขา(2024-2025)เขาจะทำได้ไหมครับ ถ้าหากทำไม่ได้จะเกิดอะไรขึ้นครับ
ขอบคุณครับ
1.DOHOME ปีนี้กำไรจะเติบโตได้เพราะ ปี 2022 ขยายได้ 5 สาขา ใช่ไหมครับ
2. 2024 กำไรจะหดรึป่าวครับเพราะปี 2023 ขยายได้แค่ 3 แถมมีรายจ่ายจากการขยายอีก 6 สาขาเพิ่มขึ้นอีก ยังไงรบกวนอธิบายหน่อยครับ
3.อาจารย์พอจะจำตัวเลข(คร่าว)ค่าเสื่อมที่จะเพิ่มขึ้นมาได้ไหมครับ (ไตรมาสละกี่ล้านนะครับ) หลังจากที่มีการต่อเติม DC โกดังเก็บสินค้าอะไรสักอย่าง
4. อาจารย์คิดว่าปีละ 6 สาขา(2024-2025)เขาจะทำได้ไหมครับ ถ้าหากทำไม่ได้จะเกิดอะไรขึ้นครับ
ขอบคุณครับ
1. กำไรโตเกิดจากรายจ่ายในการขยายสาขาในปีนี้ที่จะเข้ามาครึ่งปีหลัง และลดลงด้วย และสาขาปีนี้จะบันทึกต้นทุนแค่ 3 สาขาครับ เป็นสาเหตุหลักที่กำไรจะโตดี
2. 2023 ก่อสร้าง 4 เปิดทันปีนี้ 3 เลื่อนเป็น มค อีก 1 ครับ จริงๆก็เหมือนปีละ 4 แหละครับ แต่ปีนี้มัวแก้แบบ เลยทำให้ก่อสร้างช้า ปี 24 กำไรไม่น่าจะถึงกับหดตัวครับ แต่อาจโตน้อยหน่อยไม่ก็ flat เพราะต้นทุน 6 สาขาใหม่น่าจะใกล้เคียง 5 สาขาแบบเก่า และรับรู้รายจ่ายเต็มปี ต่างจากปีนี้
3. จำไม่ได้ละครับ ผมไม่ค่อยซีเรียสมากเพราะไม่ได้กะถือสั้นครับ ปกติคนถือสั้นจะซีเรียสตัวเลขมากกว่า
4. เค้ามีประสบการณ์แล้วอ่ะครับ ถ้าทำไม่ได้ก็ revaluate ครับ
Latest Post: EKH Our newest member: Pailin Chituatrakool Recent Posts Unread Posts
