สอบถามพี่ประพาสครับ ถ้าเป้าหมายพอทเป็น 30% ต่อปี
แล้วถือ MINT CENTEL กลุ่มโรงแรมอยู่ตอนนี้ ที่ยังมี MOS อยู่บ้างนิดหน่อย
เราควร ให้ discount ในวิกฤตที่กลุ่มนี้จะฟื้นช้าไปหลายปี แล้วขาย ตอน MOS ยังไม่ถึงกับกลับมาปกติไหมครับ เช่น MOS10%
ในกรณี ถ้าอยากที่จะ switch ไปที่ตัวอื่น ที่มี MOS มากกว่า ตังใจอยากจะ switch ไป SABINA และ CPALL เพิ่มครับ
หรือว่ามองว่า ก็ดู MOS ตามปกติครับ เพราะว่า ที่ขาดทุน ก็ทำให้กำไรสะสม ลดไปแล้ว มีผลทำให้ PBV สูงขึ้นไปในตัวอยู่แล้วครับ
สอบถามพี่ประพาสครับ ถ้าเป้าหมายพอทเป็น 30% ต่อปี
แล้วถือ MINT CENTEL กลุ่มโรงแรมอยู่ตอนนี้ ที่ยังมี MOS อยู่บ้างนิดหน่อย
เราควร ให้ discount ในวิกฤตที่กลุ่มนี้จะฟื้นช้าไปหลายปี แล้วขาย ตอน MOS ยังไม่ถึงกับกลับมาปกติไหมครับ เช่น MOS10%ในกรณี ถ้าอยากที่จะ switch ไปที่ตัวอื่น ที่มี MOS มากกว่า ตังใจอยากจะ switch ไป SABINA และ CPALL เพิ่มครับ
ได้ครับ กลยุทธ์การ Switching ก็เป็นกลุยทธ์ที่ VI ทำกันครับ เพียงแต่มีข้อที่เราต้องเข้าใจดังนี้ครับ
วิธีที่เราลงทุนได้มี 2 วิธี
1 Switching แบบที่ถามมาเลยครับ ข้อดีคือ ทำรอบได้บ่อย ข้อเสียคือเราจะพลาดผลตอบแทนสูงๆของหุ้นตัวนั้นไปในกรณีที่เค้าสามารถเติบโตต่อได้อีกมากครับ ยกตัวอย่างเช่น COM7 ที่ผมซื้อตอน 17-18 บาท มาขาย 40 บาท แต่ตอนนี้ราคาวิ่งไปเกือบ 60 บาทแล้ว เป็นต้นครับ
2 ถือจนกว่าผลตอบแทนรายปีจะต่ำกว่าเป้าหมายของเราครับ แบบนี้ข้อดีคือ เราไม่ต้องเสี่ยงกับหุ้นตัวใหม่ๆบ่อยๆ ข้อเสียคือ ราคาหุ้นอาจจะวิ่งช้าถ้าไม่มีปัจจัยการเติบโตมาดันราคาครับ
หรือว่ามองว่า ก็ดู MOS ตามปกติครับ เพราะว่า ที่ขาดทุน ก็ทำให้กำไรสะสม ลดไปแล้ว มีผลทำให้ PBV สูงขึ้นไปในตัวอยู่แล้วครับ
กรณีที่มีขาดทุนหนักๆสะสมเนี่ย Valuation จะมองยากขึ้นมากๆเลยครับ เนื่องจากตัวเลขจะเพี้ยนไปมาก
อาจจะต้องนำ P (ราคาในปัจจุบัน) ไปหาร EPS ในปีก่อนเกิดวิกฤต (2019) เพื่อคอยเช็คอยู่เรื่อยๆประกอบด้วยครับ หุ้นที่ขาดทุนมากๆถือเป็นหุ้นกลุ่ม Turnaround ซึ่งการวิเคราะห์มักจะใช้วิธีการตามปกติไม่ค่อยได้ครับ ต้องใช้ประสบการณ์สูงขึ้นในการประเมินให้แม่นยำมากขึ้นครับ