Forum

Notifications
Clear all

ส่งการบ้านรุ่น 5 !!!

Page 2 / 3

(@chalidan)
New Member
Joined: 3 years ago
Posts: 1
 
  1. เอ๋ ชลิดา
  2. 10-15% ต่อปี
  3. ADVANC, CPALL, CPN, DCC, KBANK, MINT
  4. MOS 20%, 35%, 32%, 40%, 57%, 41%
  5. ADVANC หุ้นแข็งแกร่ง รายได้ยังเติบโตดีและสม่ำเสมอ (ไม่เป็นวัฏจักร) อัตรากำไรเริ่มตกจากการแข่งขันในตลาด แต่เห็นว่าบริษัทกำลังหารายได้เสริมจากช่องทางใหม่ๆ เช่น การขายโฆษณา และส่วนตัวคิดว่า DTAC อาจจะออกจากตลาดในระยะยาว ซึ่งจะทำให้การแข่งขันตกลง

        CPALL หุ้นแข็งแกร่ง ตามที่อาจารย์บอก ส่วนตัวประทับใจการฝึกอบรมพนักงาน 7-11 ที่เคยไปดูมา และชอบ service mind ของน้องๆใน 7-11 แถวบ้านมาก

        CPN อันนี้ซื้อตามอาจารย์บอก ยังไม่ได้วิเคราะห์เยอะ (มีคำถามคือ ทำไมปี 2020 book value of equity ตกลงจากปี 2019 ทั้งๆที่กำไรปี 2020 ยังเป็นบวกอยู่คะ)

        DCC อันนี้ก็ซื้อตามอาจารย์ อยากได้หุ้นโตช้าไว้ในพอร์ตบ้าง

        KBANK รายได้ยังเติบโตดี ในช่วงโควิดหุ้น KBANK ดูจะตกแรงที่สุดในกลุ่มธนาคารด้วยกัน เพราะปล่อยกู้ให้ SME เยอะ นักลงทุนเลยคาดว่า NPL จะสูงมาก แต่บริษัทมีการตั้งสำรองไปเยอะมากแล้ว ในอนาคตน่าจะไม่แย่เท่าปี 2563 เป็นธนาคารที่น่าจะปรับตัวสู้ Fintech ได้ดีพอสมควร

       MINT หนี้ท่วมท้นแต่เงินสดเยอะ น่าจะมีสภาพคล่องมากพอจนผ่านช่วงวิกฤตไหว เมื่อวิกฤตดีขึ้นน่าจะมี demand การท่องเที่ยวที่มากกว่าปกติ ในขณะที่ supply ลดลง (โรงแรมหลายๆแห่งปิดตัวไปแล้ว)


   
ReplyQuote
(@thanit-luengvilai)
New Member
Joined: 3 years ago
Posts: 1
 

1 แป๊ก ธนิต

2 25%

3 Centel DCC CPAll

4 MOS 35 41 42 (Jitta)

5

Centel

มีรายได้จาก 2 แหล่ง อาหาร และ โรงแรม

รายได้จากอาหารเติบโตขึ้น 60-62 เพราะตลาดรวมเติบโตร้อยละ 3-4 ตลาดรวมมูลค่า 162ลบ,

รายได้จากโรงแรมแม้นว่ารายได้ในส่วนอัตราการเข้าพักจะลดน้อยลง 4% (77.2%) และ มาจิ้นลด 2% (4475) แต่ RGI (Revenue Generation Index) เพิ่มขึ้นจาก 1.29 เป็น 1.31 หมายถึง ตลาดชะลอแต่ได้ marget share เพิ่ม, ได้อนิสงค์จากลูกค้า อินเดีย และ เกาหลีใต้, บัตร The One Centara มีสมาชิกเพิ่มจาก 1.2M เป็น 1.6M แสดงว่ามีความสามารถในการหาสมาชิกเพิ่มได้ดี

DCC

เป็นที่2ในตลาด รอง จาก Cotto ของ SCC

การควบรวม RCI เข้ามาผมมองว่าถ้าได้ประโยชน์ก็ไม่มากเพราะ 1 ก่อนควบรวมนั้น ทั้ง ผบห และ กรรมการ ก็เป็นชุดเดียวกัน 2 กำลังการผลิต RCI ในปี 62 นั้นก็เต็มการผลิตอยู่แล้ว เนื่องจากตลาดกระเบื้องเป็นตลาดอิ่มตัวการเติบโตของตลาดจึงมีน้อยมากแต่ถึงกระนั้น DCC ก็มีความสามรถในการแย่งชิงตลาดเพิ่มขึ้นจาก cotto และ กระเบื้องนำเข้า อีกทั้งต้นทุน ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นต้นทุน cogs หลักลดลงและมีแนวโน้มจะไม่กลับไปเพิ่มมากเหมือนแต่ก่อน ทำให้ยอดขายเพิ่มตั่งแต่ 60-62, ในส่วนผลิตภัณฑ์ ก็มีการออกสินค้า premium เพิ่ม และมี ยอดขาดเพิ่ม ขึ้น ได้แก่ 60 X 120 floor อนาคตจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่คือ 80 X 80 floor ออกมาตีตลาดนำเข้าด้วย ในด้านราคา DCC ทำได้ดีกว่าตลาดนำเข้ามาก ราคาอยู่ที่ 280บ/ตรม (ยังไม่หักส่วนลด) ส่วน กระเบื้องนำเข้านั้นอยู่ที่ 400-500บ/ตรม อีกทั้งช่วงนี้ ตลาดนำเข้าประสบปัญหาค่า freight เพิ่ม และ shortage containers จึงเป็นโอกาสมากสำหรับตลาดกระเบื้องที่ผลิตในไทย, DCC มีหนี้น้อยมากและมีการจ่ายปันดีตลอด ผบห อาจจะมีการปันถึง 100% ใน ปี 2564 และ จะทำให้ yield สูงถึง 6-7%

 

CPALL 

ยังไม่ได้อ่านเลยครับ แต่ เชื่อ อาจารย์วิเคราห์ แฮะๆ

 


   
ReplyQuote
(@bam-jirapinya)
New Member
Joined: 3 years ago
Posts: 1
 

1. แบม  จิรภิญญา

2. 15%

3. CPALL   SABINA   DCC    S11     CENTLE

4.  43%     17%     41%     29%     37%

5.  CPALL

-หุ้นแข็งแกร่ง

-เป็นผู้นำอย่างเด็ดขาด คู่แข่งเข้ามาสู้ยาก

-วันไปทำงานซื้อของ7-11ทุกวัน ทั้งของตัวเองและพี่ที่ทำงานฝากซื้อค่ะ

-ซื้อกิจการแม็กโครเพื่มเครืองยนต์

SABINA

-หุ้นโตช้า

-เป็นสินค้าที่ใช้อยู่ ได้สัมผัสคุณภาพของผลิตภัณฑ์จริงเลยทำให้เข้าใจสินค้าได้ง่าย

-ออกแบบทันสมัย ราคาเหมาะสมพัฒนาสินค้าตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป่าหมาย

-มีการจ้างผลิตจากเดิมที่ผลิตเอง ทำให้ต้นทุนลดลง

DCC

-หุ้นโตช้า

-ROE 30%

-รายได้จากการผลิตและจำหน้ายเอง

-รายได้จากการจำหน่ายสินค้าที่ซื้อจากบริษัทย่อย (ซื้อมาขายไป)

มีจุดแข็งที่ลวดลายที่แตกต่างจากสินค้าน้ำเข้า

S11

-หุ้นโตเร็ว

-เป้าหมาย คือ บุคคลธรรมดาทั่วไประดับกลางถึงระดับล่าง (มีฐานลูกค้ากว้าง)

-ลงทุนเพิ่มขึ้นจากปี60-62โดยการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน

-ในตลาดกทม.มีการแข่งขันสูง ใช้กลยุทธ์เน้นรักษาลูกค้าเดิม สร้างความแตกต่างในการให้สินเชื่อโดยเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดให้มากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา

CENTLE

-หุ้นโตช้า และ วัฏจักร

-รายได้หลักจากโรงแรง 39%  อาหาร57.6%  อื่น 2.7%

-มีแผนขยายเพิ่มห้อง รับจ้างบริหารโรงแรม(ไม่ต้องลงทุนสร้างเอง) ลดต้นทุน

 

หมายเหตุ สารภาพว่าไม่ได้ศึกษาข้อมูลเชิงลึกเลยค่ะอ. 😓 อ่าน56-1คร่าวๆ นั่งฟังoppdayของcentleเมื่อคืนตอนตี1 ค่อนข้างงงเลยค่ะ คำทับศัพเยอะมาก และต้องศึกษาธุรกิจนี้เพิ่มเติมอีกจะได้เห็นภาพชัดขึ้นเวลาที่ผู้บริหารออกมาพูดค่ะ

(ศึกษาข้อมูลไม่ค่อยทัน หุ้นที่เลือกเน้นใกล้ตัว พอรู้จักจะได้เห็นภาพชัดขึ้นค่ะ) 🙂 


   
ReplyQuote
(@somponpp3)
New Member
Joined: 3 years ago
Posts: 1
 
  1. เอ + สมพล นิรฉัตรสุวรรณ
  2. เป้าต่อปี 15-20%/ปี
  3. 1.JUBILE  2.SABINA  3.KBANK  4.S11  5.BLA 
  4. 1..JUBILE ROE 30%
  5. SABINA ROE 16%

    3 .KBANK  ROE 56%

  1.   S11   ROE 30%
  2. BLA ROE 63%
  3. เหตุผลเชิงคุณภาพ

 1..JUBILE    ROE 30%  

     JUBILE เป็นเจ้าใหญ่ที่ทำสินค้าคุณภาพ  คู่แข่งในประเทศเป็นเจ้าเล็กกระจัดกระจายจึงไม่สามารถเป็นคู่แข่งได้

ถึงจะเติบโตปีละประมาณ 10% แต่เป็นบริษัทที่มั่นคง

  1. SABINA ROE 16%

      SABINA ออกแบบสินค้าที่มีรูปแบบทันสมัย เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายทางONLINE มีคู่แข่งรายใหญ่2ราย แต่ตลาดเป็นตลาดใหญ่ ปี 60-62 ตลาดเติบโตดี

 3 .SNC  ROE 37%

     SNC  เป็นหุ้นแข็งแกร่ง ทำเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องทำความเย็น อะไหล่รถยนต์ คู่แข่งรายใหม่น้อยเพราะกำไรบางมาก แต่บริษัทแข็งแกร่ง

  1. S11 ROE 30%

      S11  เป็นหุ้นโตเร็ว มีรายได้จากการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เป็นหลัก มีกลุ่มตลาดที่ชัดเจน ตลาดสามารถเติบโตได้อีกมาก

  1. BLA ROE 63%

      BLA  เป็นหุ้นวัฏจักร ปรับกลยุทธ์เพิ่มPRODUCT ในกลุ่มผู้สูงอายุ เพิ่มช่องทางการขายเช่น เพิ่มผู้แทนการขาย


   
ReplyQuote
(@sudthisak-ttg)
New Member
Joined: 3 years ago
Posts: 1
 

ส่งการบ้านครับ

จุ้ย(สุทธิศักดิ์)

เรียน อ.ประพาส

การบ้านผม อยู่ในไฟล์แนบครับ

(ไฟล์ PDF )

ขอบคุณครับ


   
ReplyQuote
(@chainarong-pornpratan)
New Member
Joined: 3 years ago
Posts: 1
 

การบ้านวันที่ 4 (17 Jan 2021)

  1. ดุ๊ง (ชัยณรงค์)
  2. เป้าหมายต่อปี 17%
  3. หุ้นที่เลือก
    1. CPALL            P/BV MOS = 36%    ประเภท แข็งแกร่ง
    2. SCCC             P/BV MOS = 63%    ประเภท แข็งแกร่งและวัฏจักร
    3. CENTEL          P/BV MOS = 29%    ประเภท แข็งแกร่งและวัฏจัร
    4. DCC               P/BV MOS = 46%    ประเภท โตช้า แข็งแกร่ง
    5. KBANK           P/BV MOS = 59%    ประเภท วัฏจักร
    6. TU                 P/BV MOS = 41%    ประเภท แข็งแกร่ง โตช้า
  4. เหตุผลเชิงคุณภาพ

4.1 CPALL

เป็นบริษัทที่มีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทุกปี ๆ ละ 700 สาขา ถึงแม้จะมีวิกฤตหนัก ๆ เข้ามา ซึ่งก็กระทบกับบริษัทพอสมควรแต่ก็ยังมีกำไรในอัตราที่สูงอยู่พอสมควรอยู่ ประกอบกับหนี้ขณะที่ซื้อ Makro เข้ามาก็เริ่มลดลงและ Makro ก็สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องช่วยส่งผลให้ CPALL มีความแข็งแกร่งขึ้นไปอีก และถึงแม้จะมี deal Tesco เข้ามาอีก ก็เชื่อว่าจะไม่ส่งผลเสียในด้านภาระหนี้สิน แต่เชื่อว่าจะสามารถทำได้ดีเหมือนกับ Makro และ Tesco ก็มีฐานลูกค้าที่สูงอยู่แล้ว คิดว่าน่าจะถือได้ยาว

4.2 SCCC

โตช้าและวัฏจักร สนใจเนื่องจาก MOS สูงสุดใน 10 ปีที่ผ่านมา และปัจจัยที่โดนกดดันราคา เนื่องจากกำไรที่ลดลง ซึ่งมองว่ามีโอกาสที่ผลประกอบการกลับมาเหมือนเดิมเนื่องจากนโยบายภาครัฐที่จะต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต คิดว่าน่าจะถือได้ประมาณ 2-5 ปี

4.3 CENTEL

ได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจากโควิด เนื่องจากนักท่องเที่ยวหายไปและร้านอาหารก็ถูกปิดในช่วงล๊อคดาวน์ นักท่องเที่ยวหาย รายได้จากร้านอาหารก็หายตาม แต่ด้วยแผนธุรกิจที่วางไว้สำหรับภายใน 4 ปีข้างหน้าที่จะมีการเพิ่มห้องอีก 9,000 ห้อง โดยวิธีการรับจ้างบริหาร ซึ่งเป็นแผนที่ดีโดยไม่ต้องมีการลงทุนสร้างใหม่ และไม่มีค่าเสื่อมมากระทบบัญชี และเมื่อวัคซีนเริ่มได้รับการฉีดก็คาดว่านักท่องเที่ยวจะเริ่มทะยอยกลับมา จึงคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะลงทุนกับ CENTEL เพื่อซื้ออนาคต และMOS สูงสุดนับจากปี 2012 คิดว่าน่าจะถือได้ประมาณ 2-5 ปี

4.4 DCC

หุ้นโตช้า จ่ายปันผลสูง เป็นหุ้นความเสี่ยงต่ำ มี ROE สูงถึง 31%, MOS สูงมาตั้งแต่ 2018 และมีผลกำไรค่อนข้างสูง ส่วนแบ่งตลาด 40% และเนื่องจากต้นจากการผลิตโดยเฉพาะเรื่องราคาพลังงานที่ถูกลง คือตัว NG ก็ช่วยผลักดันให้กำไรสูงขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่าราคา NG จะทรง ๆ อย่างนี้ไปอีกประมาณ 3 ปี จัดเป็นหุ้นปันผล ดังนั้นปัจจัยพลังงานจะเป็นตัวแปรหลักสำหรับธุรกิจนี้ ดังนั้นคิดว่าน่าจะถือได้ประมาณ 2-3 ปี

4.5 KBANK

เป็นหุ้นวัฏจักร ราคาปรับตัวลดลงมาค่อนข้างเยอะต่ำกว่า 50% จากปี 2562 และมี MOS ยังสูงอยู่ และคิดว่าเป็นสถาบันการเงินที่มั่นคง และหากมองว่าปีหน้าสถานการณ์โควิดดีขึ้น ลูกค้าก็น่าจะดีขึ้น ก็จะทำให้ NPL จากลูกหนี้ลดลง และคิดว่าน่าจะกลับไปทำกำไรใกล้เคียงกับก่อนวิกฤต "คิดเหมือน SCCC" MOS 59% ไม่สูงเมื่อเทียบกับปีก่อน คิดว่าน่าจะถือได้ประมาณ 2-4 ปี

4.6 TU

MOS ทั้ง P/BV และ P/E MOS=38% ค่อนข้างสูงทั้งคู่ อาจารย์สอนว่าถ้า MOS สูงทั้งคู่ สำหรับธุรกิจแบบนี้ ก็ไม่ต้องรอครับ 555 เหตุผลอื่นที่ฟังใน Opp day ซึ่งก็ดันพูดภาษาอังกฤษอีก ก็ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง 555 แต่ก็เห็นพัฒนาการของ GP & NP ที่สูงขึ้นมาก และมีแผนงานรองรับที่ดีในสถานการณ์โควิด คิดว่าน่าจะถือได้ไม่เกิน 2 ปี

ขอแสดงความนับถือ


   
ReplyQuote
(@ann-loveu)
New Member
Joined: 3 years ago
Posts: 1
 

ชื่อเล่น : แอน         

ชื่อจริง : ประภาพร

เป้าหมาย : 15%

หุ้นตัวที่ 1

หุ้นที่เลือก : CPALL

MOS : 33%

เหตุผล : CPALL เป็นกลุ่มธุรกิจรายใหญ่ผูกขาดในตลาด หาคู่แข่งยาก เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก covid-19 เพราะนักท่องเที่ยวหาย รายได้หายไป พอสถานการณ์กลับมาดีขึ้นเป็นปกติ รายได้ก็จะกลับมา และยังโปรเจ็กต์ที่ CPALL ลงทุนไว้อีก ซึ่งก็จะเริ่มเห็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นต่อๆ ไป เป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะเก็บหุ้นตัวนี้ถือไว้ยาวๆ ในพอร์ต

 

หุ้นตัวที่ 2, 3, 4

หุ้นที่เลือก : CENTEL, CPN, KBANK

MOS : 34% 32% 55%

เหตุผล : สำหรับหุ้น CENTEL, CPN, KBANK เป็นเหตุผลเดียวกัน คือ ในปีนี้จะลงทุนในหุ้นโดยเลือกจาก

  • เลือกที่ MOS ถูก
  • เลือกธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก Covid มาก
  • เลือกหุ้นที่พื้นฐานบริษัทแข่งแกร่ง และเป็นผู้นำใน sector นั้น

เพราะเชื่อว่า เมื่อสถานการณ์ Covid ดีขึ้น ทุกอย่างกลับมาปกติ ธุรกิจเหล่านั้นก็จะฟื้นกลับมา

 

หุ้นตัวที่ 5

หุ้นที่เลือก : SCCC

MOS : 42%

เหตุผล : เริ่มสนใจหุ้นตัวนี้ เพราะ MOS ถูก และคนพูดถึงกันมาก จึงเริ่มศึกษาเบื้องต้นพบว่า เป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจ มีความผูกขาด แต่พอไปดู MOS ย้อนหลังไปก่อนปี 2020 ก็พบว่า MOS ก็ถูกต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว จึงต้องศึกษาพื้นฐานของธุรกิจให้มากขึ้นต่อไปก่อนที่จะลงทุนในหุ้นตัวนี้

This post was modified 3 years ago 2 times by Ann Loveu

   
ReplyQuote
(@anya-ay-waranya)
New Member
Joined: 3 years ago
Posts: 1
 

อันยา วรัญญา

เป้าหมาย 15%

CPALL 33% 

หุ้นแข็งแกร่ง มีการขยายสาขาต่อเนื่อง มี market share ที่สูง ยืนหนึ่งด้านการผูกขาด

CENTEL 33% 

หุ้นแข็งแกร่ง การรับจ้างบริหารทำให้สามารถขยายธุรกิจโดยไม่ต้องแบกรัภาระค่าเสื่อม 

SCCC 42%
ฟังอาจารย์วิเคราะห์ 

MEGA
ฟัง oppday ยังไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่พบว่าจะมีการขยายตลาดอีกในหลายประเทศ ลูกค้ามีทั้งB2B และ B2C รายได้มาจากอาหารเสริม ยาที่ใช้ในรพ. และ OEM แต่มีความเสี่ยงในหลายด้าน เช่น คู่แข่ง ค่าเสื่อม ค่าเงิน 

กลุ่มการเงินอยากจะมีไว้ซักตัว ยังเลือกไม่ได้ระหว่าง SAWAD CHAYO S11 MTC ค่ะ 

พอได้มาเรียนพบว่าหุ้นที่เคยสนใจอาจไม่ได้ตอบโจทย์การลงทุน เดี๋ยวไปฟังย้อนของวัน3-4 ถ้าเข้าใจได้มากขึ้นคงจะมั่นใจในการเลือกหุ้นมากขึ้นค่ะ


   
ReplyQuote
(@tony-lieu)
New Member
Joined: 3 years ago
Posts: 1
 
ชื่อ :     เกรียงศักดิ์ ศิริเวชมงคลชัย (เอ)   
เป้าหมายต่อปี :  15%          
หุ้นที่เลือก :   (CENTEL , CPALL , SCCC มีในพอร์ทแล้วหุ้นละแสนบาท ซื้อเมื่อวันที่ 18มค 2561) , (MINT  SIRI , KBANK ,BLA , SNC , DCC , ADVANC, SF จะซื้ออย่างละ THB100,000)
MOS :    ตามไฟล์ที่แนบมาด้วย     
เหตุผลเชิงคุณภาพ : ตามไฟล์ที่แนบมาด้วย     

ตั้งเป้าลงทุนด้วยเงิน 1ล้านบาท กระจายในหุ้น 10 ตัว ตัวละแสนบาท ตามรายละเอียดในไฟล์แนบ 

 


   
ReplyQuote
(@pang-sasivivan-rachpech)
New Member
Joined: 3 years ago
Posts: 1
 

แป้ง (ศศิวิวรรณ)

เป้าหมายต่อปี 20%

หุ้นที่เลือก (คำนวณ MOS โดยข้อมูลจาก Jitta)

1.CPALL ,MOS 38% 

     -มีการบริหารต้นทุน บริหารจัดการ Supply chain ได้มีประสิทธิภาพ
     -มีการเติบโตของธุรกิจ จากการขยายสาขา ของ 7-11 ทั้งภายในและภายนอกประเทศ การขยายสาขาของแมคโครทั้งภายประเทศและต่างประเทศ
     -เป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งสูง มีคู่แข็งรายใหญ่น้อย

2.CPN ,MOS 30%

    มีการบริหารพื้นที่ให้เช่าได้ดี ครองส่วนแบ่งตลาดได้เยอะ(ประมาณ 20%) มีโครงการใหม่เพิ่มขึ้นรวมถึงขยายไปต่างประเทศ ถ้าเป็นไปตามแผนคาดว่าภายในปี2024 น่าจะมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด

3.MINT ,MOS 47%

    -แม้กระแสเงินสดไม่ดีแต่มีการลดต้นทุนที่ดี และตอนนี้มีการเพิ่มทุนแล้ว คิดว่าน่าจะช่วยให้ผ่านวิกฤติไปได้
    -แม้เจอโควิดแต่ยังคงมีการปรับปรุงและขยายธุรกิจ
    -ธุรกิจโรงแรมมีแนวโน้มการเติบโต จากแผนการเพิ่มจำนวนห้อง 13,553 ห้องภายในปี 2024 (17% เทียบกับปี 2020)
    -กลยุทธ์ซื้อโรงแรมมาปรับปรุงระบบขายแล้วเช่าโรงแรมมาบริหารเองลดความเสี่ยงการลงทุน
    -ธุรกิจอาหารคาดว่าจะเติบโตได้ต่อเนื่อง

4.CENTEL ,MOS 32%

    -มีกระแสเงินสดดีแม้เจอวิกฤติอยู่
    -ธุรกิจโรงแรมมีแนวโน้มการเติบโต จากแผนการเพิ่มจำนวนห้อง 9,238 ห้องภายในปี 2024 (116% เทียบกับปี 2020) โดยเน้นที่ต่างประเทศ(เอเชีย) และเน้นการรับจ้างบริหาร
     กลยุทธ์รับจ้างบริหารช่วยลดความเสี่ยง และต้นทุน

5.SABINA ,MOS 15%

     มีการควบคุมต้นทุนทำให้กำไรมีการเติบโต มีการทำการตลาดได้ดี มีการปรับกลยุทธ์ได้ทันตามสถานการณ์ได้ดี คาดว่ายอดขายน่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะยอดออนไลน์

6.SAWAD ,MOS 28%

      มีโครงสร้างในการรองรับลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ตอนนี้ร่วมมือกับออมธนาคารออมสิน ถ้าไปได้ดีก็น่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง

7.S11 ,MOS 23%

     เป็นบริษัทเล็กที่มีแนวโน้มเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้ ถ้าทำได้ก็จะเติบโตในอัตราที่สูง

8.BLA ,MOS 53%

    ยอดขายเริ่มฝื้นตัว ถ้าสามารถทำได้ก็น่าจะเติบโต (ต้องรอดูอีกที)

9.KBANK ,MOS 51%

    - สถานะการเงินแข็งแรง
    - ลูกหนี้มีการเติบโตต่อเนื่อง

10.SIRI ,MOS 54%

   -ในปี 2021 บ้านในตลาดกลาง-สูงก็น่าจะยังคงเติบโตได้

   -มีการรักษาสภาพคล่องของเงินสด แม้จะต้องยอมลดราคาขายเพื่อดึงดูดลูกค้าในช่วงโควิด

11.DCC ,MOS 37%

    - มีการออก product ใหม่ ที่มี Margin สูงขึ้น
    - จ่ายปันผลดี เพิ่มความอุ่นใจสำหรับมือใหม่


   
ReplyQuote
(@pinyo-limphongsathorn)
New Member
Joined: 3 years ago
Posts: 1
 

1. ชื่อเล่น + ชื่อจริง

โย ภิญโญ

2. เป้าหมายต่อปี

15% ต่อปี

3. หุ้นที่เลือก 4. MOS

CPALL (MOS 30%) ADVANC (MOS 20%) MINT (MOS 40%) SNC (MOS 45%)

5. เหตุผลเชิงคุณภาพ

ขออนุญาตออกตัวก่อนว่าเหตุผลที่เขียนมาจากฟังอาจารย์วิเคราะห์มาแล้วเห็นด้วย 90% วิเคราะห์เอง 10%

CPALL
หุ้นแข็งแกร่งทั้งเชิงคุณภาพและปริมาณ มีการเพิ่มเครื่องจักรคือ Lotus ซึ่งราคายังถูกกดันจากการกู้เงินมาซื้อและมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย ซื้อตอนนี้มีส่วนลดและถือยาวได้เพราะคาดหวังผลตอบแทน 15% ต่อปั
ADVANC
หุ้นโตช้า แข็งแกร่ง เป็นผู้นำตลาดเบ็ดเสร็จ มีความได้เปรียบคู่แข่งเรื่องการประหยัดต่อขนาด มีส่วนลด 20% มองว่าซื้อถือยาวได้
MINT
หุ้นแข็งแกร่งที่กำลังฟื้นตัวจากผลกระทบ COVID-19 มีภาระหนี้สินมากเป็นปัจจัยกดดัน เชื่อว่าสามารถกลับมามีกำไรไและทยอยชำระหนี้ได้หากสถานการณ์คลี่คลาย โดยลองคำนวณหากอนาคต 2 ปี ข้างหน้า หากบริษัทกลับมามีตัวเลขกำไรสุทธิเท่าปี 2019 จะคำนวณ PE ได้ประมาณ 12 เท่า ต่ำสุดในรอบ 14 ปี เลยอยากเสี่ยงซื้อตอนนี้ด้วยส่วนลด MOS 40%
SNC
หุ้นภาคการผลิตที่มีโอกาส Turnaround มีการเปลี่ยนโครงสร้างรายได้กลับมาเป็นกาารับจ้างประกอบสินค้า (OEM) มีการออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อนำไปสร้างโรงงานเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรองรับการเติบโต ยอดขายมีโอกาสทำ new high ในไตรมาส 4/2563 จากorder ผลิตแอร์ที่เข้ามามากในไตรมาสนี้


   
ReplyQuote
(@nipon-teerachaikulpanich)
New Member
Joined: 3 years ago
Posts: 3
 
  1. ชื่อเล่น: นิ ชื่อจริง: นิพนธ์
  2. เป้าหมายต่อปี: 15%
  3. หุ้นที่เลือก: CPALL, CENTEL, CPN, DCC, SCCC, SNC

    ปล: เนื่องจากมีเวลาจำกัดในการศึกษาและทำความเข้าใจธุรกิจอย่างถี่ถ้วน จึงขอใข้ข้อมูล MOS% ข้อมูลจากการดู Live ของ อ. ในสรุปการวิเคราะห์เชิงคุณภาพทำการบ้านส่งครับ

ชื่อหุ้น

ประเภท

สัดส่วน%

MOS%

SCORE

เหตุผลเชิงคุณภาพ

CPALL

แข็งแกร่ง

30

33

92

มีแนวโน้มการเติบโตอย่างมั่นคง เจ้าตลาดสำหรับกลุ่มค้าปลีกประเภทร้านสะดวกซื้อ 7-11 มีสาขาครอบคลุมว่า 11,712 สาขา และมีการขยายในธุรกิจที่ห้างค้าส่ง Makro ก่อนหน้านี้ และปัจจุบันซื้อกิจการค้าปลีก Tesco Lotus  เพื่อดำเนินการภายใต้ supply chain เดียวกัน มีแนวโน้มที่จะสามารถจะลดต้นทุนและเพิ่มกำไรได้ในอนาคต มีแผนการขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มยอดขายได้ แต่ปัจจุบันมีแรงกดดันในเรื่องของดอกเบี้ยเงินกู้ที่นำมาลงทุน ทั้งใจส่วนของ makro และ Tesco Lotus ในอนาคต สถานการณ์โควิดที่ทำให้แผนการรุกตลาดในลาวและกัมพูชาเลื่อนออกไป และยอดขายรวมของปี 2563 ภายในประเทศตกลงเนื่องจากปริมาณนักท่องเที่ยวที่ลดลง เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง สามารถซื้อแล้วถือในระยะยาวได้ ผลตอบแทนคาดหวัง 15%

 

 

CENTEL

แข็งแกร่ง

20

31

78

รายได้รวมจากอดีตมีการเติบโตต่อเนื่อง รายได้หลักจากธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร คิดเป็นสัดส่วน 45% : 55% บริษัทอยู่ในกลุ่มเครือเซ็นทรัลทำให้ส่งเสริมกันได้ในรูปแบบ ecosystem ทั้งโรงแรม และร้านอาหารที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันกับห้างสรรพสินค้า มีการบริหารจัดการแบบ Conservative หนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับต่ำกว่า 1 มีสภาพคล่องในการดำเนิน ธุรกิจโรงแรมจะเพิ่มสัดส่วนในการรับจ้างบริหารภายในชื่อ Centara ที่มีความแข็งแกร่งและมีชื่อเสียง โดยจะมีจำนวนห้องที่จะบริหารจัดการเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว จากเดิมประมาณ 8,000 ห้องเป็น 16,000 ห้อง หากผ่านสถานการณ์โควิดไปได้คาดว่าการท่องเที่ยวจะกลับ สามารถทำได้รายแบบ New High  ได้  สำหรับธุรกิจอาหารมีความแข็งแกร่งใน Brand ที่ถืออยู่ เช่น KFC Mister Donut  Auntie Anne’s ร้านอาหารญี่ปุ่น ไทย และไอศกรีม COLD STONE รวมกันถึง 15 Brands มีจำนวนสาขาครอบคลุมทั้งประเทศ ทั้งนี้คาดว่าหลังวิกฤตโควิด CENTEL จะสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าคู่แข่งรายอื่นๆในอุตสาหกรรมเดียวกัน เป้าหมายการฟื้นตัวอยู่ในระยะเวลา 3 ปี จากนี้ไป อย่างไรก็ตามธุรกิจมีปัจจัยอ่อนไหวต่อเรื่องโรคระบาดและการชุมนุมทางการเมือง ผลตอบแทนคาดหวัง 15%

 

 

CPN

แข็งแกร่ง

20

31

77

รายได้หลัก 75% มาจากการธุรกิจประเภทห้างสรรพสินค้า ส่วนที่เหลือประกอบด้วยรายได้จากการให้เช่าสำนักงาน อสังหาริมทรัพย์และศูนย์อาหารภายในห้างสรรพสินค้า รายได้ของบริษัทมีการเติบโตต่อเนื่องทุกปี และครองตลาดเป็นอันดับที่ 1 ในหมวดของพื้นที่ห้างสรรพสินค้าเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่นโดยมีศูนย์การรค้า 34 แห่ง พื้นที่ให้เช่า 1.8 ล้าน ตร.ม. อัตราปล่อยพื้นที่ให้เช่ามีค่าเฉลี่ยที่ 92% ภายใต้กลุ่มเครือเซ็นทรัลทำให้ตัวห้างสรรพสินค้าหลายแห่งมีตำแหน่งที่ตั้งเดียวกับโรงแรมบริษัทฯในเครือ และร้านอาหาร สนับสนุนกันในเรื่องของทำเลและพื้นที่ในการทำธุรกิจ ในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมามีรายได้ลดลงประมาณ 20% เป้าหมายระยะฟื้นตัวประมาณ 2-3 ปี มีแผนพัฒนาพื้นที่ศูนย์การค้าทั้งภายในและในประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต อย่างไรก็ตามตัวธุรกิจมีความอ่อนไหวต่อเรื่องโรคระบาดและการชุมนุมทางการเมือง ผลตอบแทนคาดหวัง 15%

 

 

DCC

เติบโตช้า, วัฏจักร

10

41

73

ครองตลาดเป็นอันดับ 2 รองจาก COTTO แต่มีความสามารถทำกำไรต่อหน่วยได้สูงกว่า COTTO ตลาดลูกค้ามีมากเนื่องจากมีช่องทางการจำหน่ายของตัวเองผ่านสาขาทั่วประเทศ และเน้นกลุ่มลูกค้าตลาดกลางและตลาดล่าง  ในขณะที่ในตลาดในประเทศมีคู่แข่งอยู่เพียง 3-4 ราย ก่อนหน้านี้ได้ทำการซื้อกิจการกระเบื้อง RCI เข้ามาด้วย ส่งผลให้เพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้อย่างต่อเนื่องในระยะหลัง มีการปรับปรุงจัดสรรพื้นที่ภายในสาขาให้เช่าในสาขาเพื่อเพิ่มยอดรายได้และความน่าสนใจต่อผู้บริโภคในการแวะที่สาขาของตนเองเช่นเดียวกับ Modern trade อื่นๆ ปันผลดีรายไตรมาส เนื่องจากเป็นหุ้นวัฏจักรรายได้และกำไรจะขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และราคาต้นทุนของพลังงานเป็นหลัก แนวโน้มเติบโตช้าคาดว่าถือระยะยาวได้ ผลตอบแทนคาดหวัง 10%

 

 

SCCC

เติบโตช้า, วัฏจักร

10

42

73

เป็นบริษัทผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่อันดับสองของประเทศ ซึ่งเป็นวัสดุพื้นฐานในการพัฒนาของประเทศ โดยจะได้รับผลเชิงบวกจากโครงการก่อสร้างของรัฐ และเอกชน โดยก่อนหน้ามีการเติบโตและกำไรต่อเนื่องอย่างช้าๆ โดยรวมแล้วความต้องการใช้ปูนซีเมนต์นั้นมีแนวโน้มที่ลดลง ช่วงหลังมีการซื้อกิจการภายในต่างประเทศทำให้ต้นทุนการบริหารจัดการในช่วงต้นมีค่าที่สูง ส่งผลให้กำไรสุทธิลดลงในปีแรกๆที่เข้าซื้อกิจการ อย่างไรก็ตามเริ่มมีแนวโน้มในการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้นทำให้ช่วงปีหลังกมีกำไรเติบโตต่อเนื่อง บริษัทฯมีหนี้สินต่อทุนที่ต่ำมาก Cash cycle ประมาณ 36 วัน ในปี 2020 บริหารจัดการโดยการเพิ่มเงินสดในมือให้มีมากขึ้น ปัจจุบันมีราคาหุ้นที่ย่อลงมามากแล้วมีโอกาสที่ราคาจะสามารถ upside ได้ในอนาคตภายหลังวิกฤตทางเศรษฐกิจจากโควิด ถือระยะกลางเพื่อให้ราคาขึ้นไป ผลตอบแทนที่คาดหวัง 15-20%

 

 

SNC

Turnaround,วัฏจักร

10

46

65

เป็นบริษัทที่ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า และรับประกอบแอร์ เครื่องซักผ้า และตู้เย็น โดยมีทั้งในส่วนที่เป็น OEM และ ODM ชิ้นส่วนยานยนต์จะมีมาร์จิ้นที่สูงแต่ยอดสั่งผลิตในส่วนของยานยนต์ขึ้นกับสภาวะตลาด ในขณะที่ OEM นั้นจะมีมาร์จิ้นที่ต่ำกว่า แต่มีสัดส่วนที่มากกว่าชิ้นส่วนยานยนต์ ในช่วงระยะเวลา 8 ปีผ่านมา บริษัทมีรายได้กำไรที่ทรงตัว ภายหลังบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงโมเดลธุรกิจโดยเพิ่มสัดส่วน OEM ให้มากขึ้นส่งผลได้ยอดรายได้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะ คาดว่ากำไร Q4/2563 น่าจะทำ New High ได้เนื่องจากสิ้นค่าประเภทแอร์จะมีคำสั่งผลิตเข้ามามากในไตรมาสดังกล่าวเพื่อรอรับยอดขายแอร์ใน Q1/2564 นอกจากนี้ทางบริษัท บริษัทฯมีการจัดการในส่วนต้นทุนค่าค่าบริหารที่ดีขึ้นโดยใช้การบริหารรวมศูนย์กลางเพื่อลดค่าใช้ใจส่งผลดีต่อกำไร  เมื่อปลายปีที่ผ่านมาบริษัทฯมีมติเพิ่มทุนเพื่อก่อสร้างโรงงานและจัดซื้อเครื่องจักรสำหรับรองรับการผลิตและประกอบงาน OEM ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทฯมีคำสั่งซื้อและสัญญาจากลูกค้ามาแล้วแน่นอน โรงงานที่จะขยายจะเสริมสภาพกำลังการผลิตดังนั้นการเปลี่ยนโมเดลธุรกิจแบบนี้มีโอกาสที่บริษัทฯจะเพิ่มยอดขายและกำไรต่อปีได้มากขึ้น ทำให้บริษัทฯมีความน่าสนใจในมุมมองของ Turnaround คาดว่าเห็นผลกำไรที่ดีและชัดเจนขึ้นในระยะเวลา 2-3 ปีหลังจากนี้  ซื้อและถือระยะกลางและขายทิ้งทำกำไรเมื่อได้ผลตอบแทนตามเป้า ผลตอบแทนที่คาดหวัง 15-20%

 

 


   
ReplyQuote
(@deedi-pom)
New Member
Joined: 3 years ago
Posts: 1
 
  1. ตู่ ช่อฟ้า

 

  1. 15%

 

  1. CPALL CENTEL

 

  1. 43% 37%
  2. CPALL

 

-หุ้นแข็งแกร่ง         

-เป็นผู้นำชนิดที่ครอบครองmarket แต่ผู้เดียว   

-เขาลงทุนกับคนมากๆๆ สร้างคน    ซื้อคนเก่ง  ซื้อนวตกรรม กลยุทธการทำธุรกิจล้ำเหลือ   เจ้าสัวมีวิสัยทัศน์ล้ำหน้า

 -มีการซื้อกิจการเพิ่มเพิ่ม Growth ตลอด

 

- CENTLE

 

-หุ้นโตช้า และ วัฏจักร

หมดโควิด  เติบโตพุ่งแน่ๆ

-รายได้หลักจากโรงแรง 39%  อาหาร57.6%  อื่น 2.7%

 

-มีแผนขยายเพิ่มห้อง รับจ้างบริหารโรงแรม ลดต้นทุน

 


   
ReplyQuote
(@kmuk-tula)
New Member
Joined: 3 years ago
Posts: 1
 

1.ชื่อ มุก(ไข่มุกต์)

2.เป้าหมายต่อปี 10-15%

3.เลือกหุ้น  1.CPALL   2.CENTEL     3.SABINA   4.DCC

4.MOS        33%        31%             20%           41%

5.เหตุผลเชิงคุณภาพ (ยังมองไม่ค่อยออกคะ ขอเวลาศึกษามากขึ้นกว่านี้อีกหน่อย วันนี้ขออนุญาตส่งการบ้านแบบนี้ก่อนนะคะ)

-CPALL:หุ้นแข็งแกร่ง เป็นผู้นำตลาดมีส่วนแบ่งการตลาด64% มีการขยายสาขาเติบโตต่อเนื่อง มีกำไรต่อเนื่อง มีหนี้จากการซื้อLOTUS แต่มีความสามรถในการคืนหนี้ได้เร็ว อนาคตจะมีกำไรเพิ่มขึ้นหลังจ่ายหนี้หมด

-CENTEL:หุ้นแข็งแกร่ง เป็นธุรกิจโรงแรม=40%  มีบริการบริหารโรงแรม

และมีธุรกิจอาหาร=60%  มีหลายแบรนด์อาหารเช่นKFC ,PIZZA HUT ,MISTER DONUS ,BASKIN ROBBINฯ

มีการขยายสาขาเพิ่ม ถ้าการท่องเที่ยวกลับมาปกติ โอกาสเติบโตดี

-SABINA:รายได้และกำไรเพิ่มต่อเนื่อง มีโรงงานผลิตและจำหน่ายภายใต้แบรนด์ตัวเอง(SABINA)  และเป็นผู้ผลิตให้แบรนด์ตปท.(0EM) 

มีอัตรากำไรขั้นต้น50% มาจากการลดต้นทุนการซื้อวัตถุดิบ(ซัพพพลายเออร์มีน้อยราย) , มีการลดต้นทุนแรงงานมาใช้เครื่องจักรเพื่อเพิ่มการผลิต

มีการขยายโรงงานแห่งที่4 เพิ่ม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าOEMที่เพิ่มขึ้น

มีการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายแบบไม่มีหน้าร้าน (ขายออนไลน์) 

-DCC:หุ้นโตช้า  มีโรงงานผลิตกระเบื้องและจำหน่าย  มีซื้อมาขายไป(กาวยาแนว กาบบัวฯ) มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ2=36%

มีรายได้โตต่อเนื่อง มีช่องทางการจำหน่ายผ่านสาขาและตัวแทน   ทำการตลาดเชิงรุกเน้นซ่อมแซมดึงส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มได้

มีผลิตกระเบื้องแผ่นใหญ๋ขายได้ราคาดีกว่า ต้นทุนผลิตถูกกว่า ทำให้มัอัตรากำไรดีขึ้น   มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ขายวัตถุดิบ

 

  


   
ReplyQuote
(@porchey)
New Member
Joined: 3 years ago
Posts: 3
 

ส่งการบ้านค่ะ 

หุ้นที่เลือกคือ

1.SCCC เพราะมีพื้นฐานแกร่ง และมีส่วนลดเยอะ 

2. CPALL เป็นเจ้าตลาด และมีอัตราการเติบโต

3. SABINA ถึงแม้จะอยู่ในอุตสาหกรรมอิ่มตัว แต่มีการปรับตัวและสามารถแย่ง market share ได้มากขึ้นค่ะ

4. CENTEL มีแนวโน้มในการทำกำไรหลังโควิด และมีพื้นฐานที่ดีค่ะ

5. MINT มีโอกาสทำกำไรได้ดีหลังโควิด 

ได้แนบไฟล์ที่ทดลองทำในเทมเพลตให้อาจารย์ตรวจด้วยนะคะ และมีคำถามดังนี้ค่ะ

1.ถ้าปีไหนที่เราจะไม่เอามาคำนวณด้วย เราจะลบข้อมูลปีนั้นอย่างไรคะ

2. ราคาปัจจุบัน เราสามารถไปกรอกในช่อง price ปี 2020 ในเทมเพลตได้เลยใช่ไหมคะ 

3. อจ.ช่วยสอนการวิเคราะห์ข้อมูลในเทมเพลตสักนิดได้ไหมคะ ว่ามีจุดไหนที่เราต้องสนใจเป็นพิเศษ เวลาเอาข้อมูลมาใส่ในเทมเพลตยัง งงๆ อยู่เลย ขอบคุณค่ะ

ปอ สุดรดา 


   
ReplyQuote
Page 2 / 3
Share:
Protected by CleanTalk Anti-Spam