Posted by: @sirimonporn-suriyawongpaisal

↑

#MTC Review งบ Q4

 

📌 กำไรสุทธิ 1,351ล้าน ดีกว่า Consensus ที่ 1,247ล้าน อยู่ 8.34%

NPM 20.6% ดีขึ้นเป็นไตรมาสที่3 ติดกัน

 

📌 ECL ยังขึ้นอยู่ แต่รายการขาดทุนสินทรัพย์ลดลง 56ล้าน ทำให้ Total Credit Cost เริ่มลดลง QoQ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นปี66 โดย %Credit Cost อยู่ที่ 3.62%

 

📌 CIR เพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามการขยายสาขา (จำนวนสาขา +2.3% QoQ)

 

📌 ค่าใช้จ่ายเริ่มทรงตัวมาดูในส่วนของรายได้กัน ถึงแม้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นมา แต่สุดท้ายรายรับเพิ่มมากกว่า ทำให้ NII +2.6% QoQ และถ้านับ 8 ไตรมาสย้อนหลัง (ต้นปี 2022) NII เพิ่มมาแล้ว 41%

 

ดังนั้นทำไมเราต้องกลัวรายจ่ายดอกเบี้ยกันนะ ถ้ารายได้มันยังโตแล้ว cover ทั้งหมดได้ แล้ว NII โต 41%? แล้วถ้าดอกเบี้ยเริ่มลง และค่าใช้จ่ายค่อยๆลงล่ะ

 

📌 มาดูคุณภาพพอร์ตบ้าง ตอนนี้ Port Size ปาไป 143,318 ล้านแล้ว เติบโต 3.3% QoQ และ 19% YoY ธุรกิจนี้ยังคงโตไว และดีมานด์เยอะครับ เนื่องจากภาคธนาคารมี Supply ของสินเชื่อออกมาน้อยมาก ความเข้มงวดของสถาบันการเงิน ทำให้คนวิ่งเข้าหา Non-Bank มากขึ้น

 

📌 NPL รวมลดลงเหลือ 3.11% จาก 3.18% ในไตรมาสที่แล้ว และ 3.36% ในไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งพอร์ตที่ยังคงดูมีปัญหาคือเช่าซื้อมอเตอร์ไซต์ ในขณะที่ยอด NPL ในพอร์ตจำนำทะเบียน ก็ยังไม่ทะลุนิวไฮที่ 4,000ล้าน ทำให้คุณภาพพอร์ตอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว ถึงดีขึ้นเล็กน้อย

 

ส่วนตัวผมยังเชื่อว่า ถึงแม้ตลาดจะเกลียดกลุ่มนี้มากขนาดไหน ก็หนีเหตุผลที่แท้จริงไปไม่ได้ว่า ตลาด Leasing

 

1.) มีความต้องการสูงมาก ยอดสินเชื่อในผู้นำอุตสาหกรรมยังเติบโตสูง

 

2.) การแข่งขัน แย่ง marketshare จากเจ้าตลาด เกิดขึ้นได้ แต่ไม่ได้กระทบมากอย่างที่กังวลกัน เพราะสุดท้าย สินเชื่อเหล่านี้ จำเป็นที่จะต้องมี "สาขา" และ "บุคลากรจำนวนมาก" ในการบริหารจัดการหนี้ และเข้าถึงลูกหนี้ได้ ซึ่้ง สาขา บุคลากร และอาจจะรวมถึงความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เหล่านี้คือ Barrier to entry ที่สำคัญสำหรับรายใหม่ ที่ทำให้ไม่สามารถโค่น 3 เจ้าตลาด ที่ตอนนี้สามารถ Consolidate ตลาดนี้ไว้ได้แล้ว

 

3.) แม้แต่ในช่วงที่ยากลำบากที่สุดของอุตสาหกรรมนี้ กำไรสุทธิของบริษัท เจ้าตลาด ก็กระทบในลักษณะเพียงแค่ "ไม่เติบโต" เท่านั้น แต่ไม่ได้ลดลงไปจนน่าใจหายแต่อย่างใด สะท้อนความยืดหยุ่นในการปรับตัว และความแข็งแกร่งของธุรกิจที่สามารถรักษาระดับกำไรไว้ได้

 

โดยกำไรสุทธิของ MTC ใน 3-4ปีที่ผ่านมาคือ

2566: 4,906ล. (-3.66%)

2565: 5,093ล. (+3.0%)

2564: 4,944ล. (-5.16%)

2564: 5,213ล.  (+23.04%)

 

4. ตลาดนี้ยังคงมีโอกาสอีกมาก ในการแย่ง Marketshare จากหนี้นอกระบบ และ การเติบโตของเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวและการลงทุน ซึ่งนำมาซึ่งความต้องการสินเชื่อใหม่ที่ธนาคารไม่สามารถรองรับ

 

อาจารย์มีความเห็นอย่างไรกับความเห็นสี่ข้อข้างต้นนี้คะ

 

และอาจารย์คิดว่ายังน่าจะซื้อหุ้นกู้ของเค้าได้ไหมคะ

 

และถ้าซื้อได้น่าจะเลือกชุดไหนดีคะ

อายุสองปีแปดวันหรือ

อายุสามปีเจ็ดวันหรือ

อายุสี่ปีห้าวัน

 

ขอบคุณมากๆเลยค่

ผมคิดว่า Stage 2 ยังเพิ่มอยู่ยังดูน่าห่วงครับ Q4 ที่ NPL ดูลดเพราะบริษัทเร่ง write-off ครับ ควรรอดู Q1 ก่อนครับ

เรื่องหุ้นกู้ขออนุญาตไม่ตอบได้ไหมครับ เพราะหุ้นกลุ่ม non-bank หากมีปัญหาพอร์ตสินเชื่อ ก็จะขาดสภาพคล่องได้ง่ายมาก เพราะปกติมีเงินเท่าไหร่ก็มักจะเร่งปล่อยสินเชื่อ ถ้าเก็บเงินไว้รอจ่ายหุ้นกู้ แล้วเกิด surprise npl ก็ขาดสภาพคล่องได้ทันที หรือไม่ก็ต้องยอมชะลอการปล่อยสินเชื่อใหม่แทน ระดับ credit rating ก็พอๆกับกลุ่ม stark เลย ไม่กล้าแนะนำครับ

อาจารย์เคยซื้อตัว MTC ไหมครับ

ถ้ามี ตอนนั้นซื้อประมาณช่วงไหน ขายไปช่วงไหน แล้วซื้อขายด้วยเหตุผลอะไรหรอครับตอนนั้น

Posted by: @phalad

↑

อาจารย์เคยซื้อตัว MTC ไหมครับ

ถ้ามี ตอนนั้นซื้อประมาณช่วงไหน ขายไปช่วงไหน แล้วซื้อขายด้วยเหตุผลอะไรหรอครับตอนนั้น

เคยครับ ลงทุนเก็งกำไรแหละครับตาม momentum ครับ หุ้นการเงินมีปัจจัยหลายอย่างมากระทบครับ ทั้ง momentum, sentiment, fundamental ขึ้นอยู่กับว่า ณ เวลานั้นมีสถานการณ์อะไรอ่ะครับ