Posted by: @sirimonporn-suriyawongpaisal

PEG ที่ผ่านมา เช่น COM7 อาจารย์ให้G=15-20 ถึงแม้เขาจะเติบโตมากกว่านั้น แต่ทำไม ติดล้อให้ 30 คะ

เป็นคำถามที่ดีมากๆเลยครับพี่ปุ๊ ช่างสังเกตมากๆครับ

เคสของ COM7 อยากให้เข้าใจว่าจริงๆเราคาดเดาการเติบโตค่อนข้างยากอยู่ครับ ก็ต้องดูว่ามันเกิดจากอะไรได้บ้าง เช่น ขายสินค้าได้เยอะขึ้น คาดเดายากไหมครับ?? ขยายสาขาอะไรแบบนี้เป็นต้น ใช่ไหมครับ อีกประการนึงที่ผมให้ความสำคัญสูงมากๆคือการเติบโตของอุตสาหกรรมครับ อุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือจริงๆแล้วในไทยนั้นเติบโตไม่สูงมากนะครับ ประมาณ 3-4% เท่านั้นเองครับ ซึ่งการจะโตได้มากกว่า 20-30% แปลว่าต้องแย่ง Market Share ของคู่แข่งเท่านั้น และการจะแย่งได้มากๆเนี่ย ก็จะมีปัจจัยภายนอกที่ว่าคู่แข่งจะต่อต้านได้มากแค่ไหนอีกด้วยจริงๆไหมครับ จึงทำให้ผมให้ค่า G เพียงแค่ 20% ครับ

ในขณะที่อุตสาหกรรมจำนำทะเบียน อุตสาหกรรมมีการเติบโตสูงมากถึง 15% และ TIDLOR ก็พิสูจน์มาแล้วว่าสามารถแย่ง market share ได้เก่งจริงไหมครับ ดังนั้นการเติบโตของยอดขาย 20% จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ค่อนข้างมาก เพราะมีเงินทุนที่ดีกว่าคู่แข่งรายย่อย ทีนี้ ในเมื่อสามารถสร้างยอดขายโตได้ 20% แต่บริษัทจะได้ Economy of scale มากขึ้นจากการขยายสาขา ทำให้กำไรสุทธิย่อมจะเติบโตสูงกว่ารายได้แน่นอนอยู่แล้วครับ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทก็แสดงให้เห็นถึงข้อนี้เช่นกันครับ ดังนั้นกำไรย่อมโตได้ 30% ขึ้นไปค่อนข้างแน่ 

อีก 1 เหตุผลคือการเป็นโบรกเกอร์ประกันภัยครับ การเติบโตของธุรกิจนี้เกิดจาก 2 ประเด็นแน่นอนคือ

1. Organic Growth คือจากการหาลูกค้าได้เพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทสามารถมียอดขายเติบโตได้มากถึงปีละ 45%

2. In-organic growth คือจากการควบรวมกิจการ (M&A) ซึ่งเป็นการซื้อฐานลูกค้ามาจากคู่แข่งนั่นเองครับ ซึ่งส่วนนี้ทางบริษัทก็ตั้งใจจะทำอยู่แล้วเช่นกัน

ดังนั้น การเติบโตในฝั่งโบรกเกอร์ประกันภัยจึงมีการเติบโตสูงกว่าฝั่งของจำนำทะเบียนซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิเติบโตมากกว่า 45-50% (เฉพาะส่วนของโบรกเกอร์ประกันภัย) ซึ่งจะช่วยดึงกำไรสุทธิรวมให้เกิน 30% ค่อนข้างแน่นอนครับ