สรุป Oppday และ งบการเงิน หุ้น ICHI ไตรมาส 2/2566
📣 ดูเวอร์ชั่นเต็มคลิก : https://bit.ly/3ZkNJK0
#สรุปงบการเงิน + Opportunity Day
#อากาศร้อน กำไรเครื่องดื่ม New high
————————————————————————–
· Sales Revenue 2,029.72 +25.6% แบ่งตามประเภทดังนี้
– Domestic 1,810.16 +26.0%
– Export 219.56 +22.4%
– รายได้เพิ่มขึ้นโดยหลักมาจากสินค้าประเภท Non-Tea และสินค้าใหม่ๆโดยการเติบโตของสินค้าหลักอย่างชาเขียวยังคงสัดส่วนเดิมได้
· Gross Profit 466.07 +60.1% สัดส่วน 22.96%
– กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้นทุนต่อหน่วยถูกลงและการปรับสูตรการลดน้ำตาลในบางผลิตภัณฑ์และราคาวัตถุดิบบางส่วนปรับตัวลดลง
· SG&A 158.21 +33.5% สัดส่วน 7.75%
– ค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้นในอัตราส่วนที่มากกว่ายอดขายเนื่องจากต้องใช้งบทางการตลาดเพิ่มขึ้นสำหรับสินค้าใหม่
– ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นเล็กน้อยทำให้เกิดการประหยัดเมื่อมียอดขายที่เติบโต
· ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในกิจการร่วมค้า
– เหลือประมาณ 1.0 ล้านบาทลดลง 13.6ล้านบาทจากใช้งบสื่อสารทางการตลาดและการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงในอินโดนีเซีย
· Net Profit 255.56 +67.5% สัดส่วน 12.52%
————————————————————————–
Q&A จาก Opportunity Day
————————————————————————–
– โรงงานที่มา Oem ให้ ICHITAN คือ Euro
– บริษัทเพิ่มไลน์ผลิตอีกไลน์หนึ่งเสร็จอีก 14 เดือนถือว่าเต็มของโรงงานแล้ว โรงงานของบริษัท 70 ไร่ ยังเหลือที่อยู่ 6 ไร่ บริษัทยังสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกนิดหน่อย ไม่เยอะ หลังจากนั้นถึงจะไปทำโรงงานใหม่ ซึ่งบริษัทซื้อที่ไว้แล้วเมื่อน่าจะ 7 – 8 ปีก่อน , ลงทุนโรงงานใหม่ก็ประมาณ 1,500 – 2,000 ล้านแต่นั่นหมายถึงอนาคตซึ่งตอนนั้นหมายถึงอาจจะมียอดมากกว่าหมื่นล้าน การลงทุนอีก 1,500 – 2,000 ล้านไม่น่าจะเป็นอุปสรรค โดยเฉพาะว่าโรงงานเก่ามีค่าเสื่อมอยู่ประมาณปีละ 5 ร้อยล้าน จะหมดสามปีข้างหน้า หมายถึงถ้าเกิดปีหน้า เกิดว่าอีกสองปีบริษัทแตะหมื่นล้านแล้วตัดสินใจที่จะลงทุนโรงงานใหม่ ไม่ว่าจะตรงที่ 6 ไร่ที่เหลืออยู่ข้างๆ โรงงานเดิม หรือไปที่ 70 ไร่ แพลนที่ซื้อไว้ สมมติถ้า 2,000 ล้าน บริษัทก็จะมีค่าเสื่อมอยู่ประมาณแค่ผมว่าน่าจะร้อยกว่าล้านเองเมื่อเทียบกับค่าเสื่อมที่หายไป เพราะฉะนั้นสภาพเงินสดหรือว่ากำไรน่าจะมีมากกว่าเงินด้วยซ้ำไป นั่นหมายถึงบริษัทมียอดขายมากกว่าหมื่นล้านและสามารถที่จะเพิ่มยอดขายได้อีกเยอะค่าเสื่อมอีกไม่เกินสามปีหมดแล้วครับ
– เป้า OEM 100, เป้าตันซันซู 300 ล้าน
– บริษัทขายดีขึ้นที่นอกจาก modern trade ที่ตัวเลขกลับมาเกือบเหมือนเดิมหรือว่าเท่าเดิมแล้ว เราขายดีขึ้นในส่วนของ traditional trade มีร้านค้าเพิ่มขึ้น และสินค้าได้ประสบความสำเร็จ เรียกว่าขายดีเกือบทุก SKU ที่ขายได้ ที่ขายไม่ได้ยกเลิกไปแล้ว มาก-น้อยตามลำดับ จริงๆ ตอนนี้ผลิตไม่ทัน บริษัทก็ต้องบริหารการผลิต และรวมทั้ง OEM ที่มีสั่งเพิ่มขึ้นเยอะเลย
– ในส่วนของ coverage ถ้าเทียบกับเดือน 6 เมื่อปีที่แล้ว ก็คือค้างไว้ 50% ปีที่แล้ว ปีนี้ 60% ก็ถือว่าการกระจายสินค้าดีขึ้น แต่สิ่งที่ยิ่งกว่านั้นก็คือยอดจำนวนขวดที่ขายออกต่อ 1 outlet ขยายขึ้นจาก 34 เป็น 44 ขวด ก็ถือว่าโตขึ้น 30% เลยครับ
– ปกติน้ำอัดลมเขามีตลาดประมาณมากกว่า 90% เลยครับ หรือว่าเรียกว่าเกือบ 100% ถ้าดูแบบนี้จริงๆ บริษัทยังมีช่องว่างอยู่ ไม่สามารถทำไปถึง 90% ครับ บริษัททำได้ 70 – 80% เพราะว่าผลมาจากหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ก็ตามนี้ ร้าน modern trade ยอดลดลง เนื่องจากว่าคนออกจากบ้านไม่ได้ ก็เลยไปซื้อที่ traditional trade พอ traditional trade เริ่มขายแล้วติดใจ ตอนนี้สินค้าก็อยู่ในใจหรืออยู่ในตู้แช่ของ traditional trade และเรามีร้านค้าเพิ่มขึ้นในระหว่างก่อนที่จะมีโควิด-19 จนวันนี้เราน่าจะมีร้านค้าเพิ่มขึ้นเป็นแสนร้านค้าสำหรับ traditional trade ครับ
– แนวโน้มไตรมาส 3 เป้าตั้งใจเป็น New high เป็นไตรมาสที่ 30 และเป็นไปได้
– U rate ไตรมาส 3 และ 4 คิดว่าไม่ต่ำกว่า 71%
– อิชิตันให้โรงงานอื่นผลิตอิชิตันน้ำผึ้งมะนาวให้
– U rate สูงสุดที่คุณตันสามารถทำได้ประมาณ 80%
– GP Q3 จะใกล้เคียง Q2 แต่ส่วนที่จะลดลงคือ Marketing Expense
————————————————————————–
สรุป
————————————————————————–
· บริษัทได้นำรายได้กำไร New high ต่อเนื่องจากเพิ่มช่องทางการขายของสินค้าใหม่ทำให้อัตรากำไรต่างๆเพิ่มขึ้น รวมไปกระแสตอบรับของสินค้ายังมีแนวโน้มที่ดีจากการทำการตลาดผ่านสื่อต่างๆ
· กำลังการผลิตของบริษัทใกล้เต็มแล้วอาจจะมีการกดดันด้านต้นทุนการขยายในระยะข้างหน้า
· ตลาดอินโดนีเซียยังมีการแข่งขันที่รุนแรงทำให้กำไรในส่วนของเงินลงทุนไม่ Contribute ให้เหมือนเดิม
————————————————————————–
“การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนลงทุน”
.
.
สรุปโดย ลงทุนกล้วยๆ
