Forum

Notifications
Clear all

ส่งการบ้าน รุ่นที่ 28 (Dec2022)

Page 1 / 3

ANTadmin
(@antadmin)
Trusted Member Admin
Joined: 1 year ago
Posts: 27
Topic starter  

คอมเมนต์ต่อกันไปเรื่อยๆได้เลยนะคะ รบกวนตอบตาม Pattern ตามนี้ค่ะ

1. ชื่อเล่น + ชื่อจริง

2. เป้าหมายต่อปี

3. หุ้นที่เลือก

4. MOS

5. เหตุผลเชิงคุณภาพ


   
Quote
(@choosak-kiwjaroen)
New Member
Joined: 1 year ago
Posts: 1
 

1. ชู ชูศักดิ์

2. เป้าหมายต่อปี = 13-15%/year

3. หุ้นที่เลือก ADVANC, TTW, SABINA, TACC, CPALL, RPH, DOHOME

4. MOS P/E จากตาราง Dashboard =  11.8, 36.4, 23, 29.1, 25.7, 26.4, 16.2

5. MOS P/BV จากที่คำนวณเอง = 21, 33, -1, -2, 24, 8, 12

6. 5 force score = 83, 87, 78, 64, 95, 82, 75

 


   
ReplyQuote
(@hgoodwyn)
Active Member
Joined: 1 year ago
Posts: 6
 

1. ทอป เกียรติยศ
2. 13.70% ต่อปี
3-5.
- BCH MoS 33% เป็นบริการจำเป็น เป็นผู้ให้บริการอันดับต้น ๆ ต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง
- PLANB MoS 25% เป็นผู้ให้บริการชื่อดัง ตลาดเติบโตดี ส่วนแบ่งตลาดยังน้อย
- NTV MoS 27% เป็นบริการจำเป็น ส่วนแบ่งตลาดยังน้อย ต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง
- PB MoS 21% เป็นสินค้าจำเป็น เป็นผู้ค้าอันดับต้น ๆ ได้เปรียบคู่แข่งสูง
- ROH MoS 54% ขนาดตลาดใหญ่ เป็น B2C กำลังจะฟื้นตัว


   
ReplyQuote
(@hattaya-250314)
New Member
Joined: 1 year ago
Posts: 1
 

1. นุ๊ก หัทยา

2. เป้าหมาย 8.83% ต่อปี

3.-5

TACC MOS 29% เป็นหุ้นโตกลาง ประเภทอาหารและเครื่องดื่มเป็นสินค้าจำเป็น มีความแข็งแกร่งของกิจการ จ่ายปันผลสูงปานกลาง  สามารถสร้างกำไรเติบโตได้ 8-10%  อุตสาหกรรมเติบโตได้บ้าง 3-5%

SABINA MOS 23% เป็นหุ้นโตกลาง เป็นอุตสาหกรรมแข็งแกร่ง เป็นสินค้าที่คนจำเป็นต้องใช้ อุตสาหกรรมเติบโตได้บ้าง

CPALL MOS 25% เป็นหุ้นโตกลาง มีความแข็งแกร่งของกิจการ สามารถสร้างกำไรเติบโตได้ 8-10% มีความสามารถในการแข่งขัน

RPH MOS 26% เป็นหุ้นโตเร็ว  ประเภทโรงพยาบาลจัดเป็นสินค้าจำเป็น เป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตดี  กำไรเติบโต 15% ต่อปี คาดหวังผลตอบแทนได้ในระยะยาว

DMT MOS 40% เป็นหุ้นโตช้า เป็นผู้นำอุตสาหกรรม มี market share สูง อุตสาหกรรมอิ่มตัว  คาดหวังเงินปันผล5% ต่อปี และคาดหวังผลตอบแทนได้ในระยะยาว

ADVANC MOS 12% เป็นหุ้นโตช้า เป็นผู้นำอุตสาหกรรม และเป็นอุตสาหกรรมที่อิ่มตัวแล้ว หรือโตได้ไม่เกิน 1-3% คาดหวังผลตอบแทนได้ในระยะยาว (เฝ้ารอให้ได้MOS20%+)


   
ReplyQuote
(@patchara-subjaroen)
New Member
Joined: 1 year ago
Posts: 1
 

1 พัช พัชระ

2 เป้าหมาย 10-15 % 

3-4 tacc mos 29% จาก dash board เป็นหุ้นโตกลางมีปันผลในระดับ 4-5% ทุกปี และจากที่ได้ฟัง oppday เห็นถึงความสามารถในการเติบโตที่โตพร้อมกับ7-11 

    cpall mos 25% จาก dash board โตกลาง แช็งแกร่ง และมีแนวโน้มเติบโตดีมากหากนักท่องเที่ยวจีนกลับเข้ามาในประเทศ 

    hmpro mos -4(คำนวณเอง) ที่ชอบเพราะเป็นตัวแรกที่ชื้อ โตกลาง ยังมีการเติบโตของรายได้ที่น่าพอใจ มีการแตกไลน์ธุรกิจเพิ่มเติม (mega home) 

    dohome mos 16% โตเร็ว มีการขยายสาขาสร้างรายได้เพิ่มเติม ตลาดยังใหญ่ มาร์เกตแชร์ยังน้อย และดูมีอนาคต


   
ReplyQuote
(@Anonymous 218803)
New Member
Joined: 1 year ago
Posts: 1
 

1. NOTE ดารณี

2. เป้าหมายต่อปี = 14.52%/year

3-5
ADVANC โตช้า, 88 คะแนน, weight 10%, mos 11% จาก dash board
CPALL โตกลาง, 95 คะแนน, weight 40%, mos 25% จาก dash board
SABINA โตกลาง, 82 คะแนน, weight 10%, mos 23% จาก dash board
RPH โตกลาง, 84 คะแนน, weight 20%, mos 26% จาก dash board
DOHOME โตเร็ว, 69 คะแนน, weight 10%, mos 16% จาก dash board
SECURE โตเร็ว, 60 คะแนน, weight 10%, mos 13% จาก dash board

 


   
ReplyQuote
 TUTA
(@tuta)
New Member
Joined: 1 year ago
Posts: 3
 

1. ต๊ะ ฐิตเทพ

2.เป้าหมาย 14%

3.หุ้นที่เลือก
RPH / TACC / SABINA / SPVI / XO พยายามเลือกหุ้นสินค้าจำเป็น เพื่อป้องกันความเสี่ยงของการเพิ่มอัตราดอกเบี้ย และเผื่อวิกฤต npl (สนใจ nsl อาจนำไปสลับกับ xo หรือ spvi)

4. MOS
RPH        mos 25%
TACC      mos 30%
SABINA   mos 25%
SPVI       mos 44%
XO         mos 36%

5.1 RPH
เป็นหุ้นโรงพยาบาลขอนแก่น ราคาระดับกลาง คุณภาพสูง (รพ.ในรูปค่อนข้างสวย)
มีจำนวนเตียง 198 เตียง อัตราครองเตียงอยู่ที่ 80%
คู่แข่งคือ รพ.ขอนแก่น 199 เตียง // รพ.กทม ขอนแก่น 126 เตียง // รพ.ราชพฤกษ์ 198 เตียง
การจ่าย แบ่งเป็น คนไข้เงินสด 55% ประกันชีวิต 38 %

แผน
ประชาสัมพันธ์ดิจิตอลมาเก็ตติ้ง ปล่อยสัญญาน วันที่ 15 ม.ค. ภาคอีสาน และลาว เป้าเอ็นเกจ 2 m คน
พยายามจะผูกสัญญากับบริษัทประกันกับอีก 2-3 บริษัทเพิ่มเติมในปี 2023
จะเปิด รพ.ใหม่ พื้นที่ 100 ไร่ 30 ไร่ ทำรพ. 100 เตียง ดูแลกลุ่มประกันสังคม/ประกันชีวิต(กลุ่มรายได้ไม่สูง) สามารถขยายเป็น 300 เตียงได้ในอนาคต -อีก 70 ไร่ รองรับกลุ่มเวลเนส และเอจ

ปี 2023 ผบห. คาดรายได้ 1200-1300 npm 12-15%
ตีต่ำจะได้ 0.265 ให้ p/e 30 = 7.95

ความเสี่ยง : การแข่งขัน จากการที่คู่แข่งลดราคาตามลงมา แปลว่ามีสิทธิแย่งลูกค้ากัน

5.2 TACC
ทำร่วมกับเซเว่น สัดส่วน 93% (ข้อดี โตไปกับเซเว่น / ข้อเสีย หากยกเลิกสัญญาน่าจะหวิวๆ)
ตู้กดน้ำ 10300 สาขา / all cafe 10100 สาขา / เครื่องกดเครื่องดื่มร้อนในปั้ม 506 สาขา
ได้ไปกัมพูชากับเซเว่น 11-12 สาขา
มีการเพิ่มตู้กดเข้าไปใน lotus เพิ่มขึ้น โลตัสใหญ่ 38 // โลตัสเล็ก +380(ในจังเกิล)
สิ่งที่ tacc ทำที่ไม่พ่วงกับเซเว่น มี 7% ซึ่งน้อยมาก สัดส่วนไม่มีนัยยะสำคัญในตอนนี้

ประมาณกำไร 2564 ประมาณ 0.4 ผบห.ให้เป้า 10%

eps 0.44 ให้ p/e 20 = 8.8

ความเสี่ยง : การพึ่งพาเซเว่นเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในเวลาเดียวกัน การต่อสัญญาทุก 3 ปี ทำให้ควรเฝ้าระวัง

5.3 SPVI
เป็นตัวแทนกลุ่มสินค้าแบรน apple
มี 79 สาขา
iStudio iBeat mobi 4+5+5=14 สาขา สัดส่วนรายได้ 2021 = 2350.18 / 42.45% (สัดส่วนรายได้หลักปัจจุบัน)
U.store AStore 21+10=31 สาขา สัดส่วนรายได้ 2021 = 1026.64 / 18.55% (กำลังพยายามตีตลาดนี้)
ais(ลค.ais) 27 สาขา สัดส่วนรายได้ 2021 =769.82 / 13.91%
Online Stores สัดส่วนรายได้ 2021 = 788.08 / 14.23%
b2b ลูกค้าองค์กรสัดส่วนรายได้ 102.91 / 7.28%

แผนขยายสาขา
เพิ่มสาขา u.store ที่ สยามสแคว เดือนธันวา
ม.ราชภัฎพระนคร // ม.ราชภัฎนครสวรรค์ // เทคโน ราชมงคล กทม

ความเสี่ยง : การเลิกสัญญาจาก apple ที่ต่อเป็นปีต่อปี

5.4 XO
เป็นธุรกิจขายซอส
สินค้าหลัก 82% ณ ปี 2564
sweet chilli sauce
sriracha hot chilli sauce
sriracha mayo

เป้ารายได้โต 10-15% ปี 64 ทำไม่ได้ตามเป้า เพราะเสียพาร์ทเนอร์
gp มั้นใจทำได้ 40% และ ยังมั่นใจ ปีหน้าก็จะได้ 40% เพราะบอกลูกค้าแล้วว่าจะปรับราคาเพิ่ม ลูกค้าโอเค

ความเสี่ยง ส่งออกในทวีปยุโรป 80% จึงมีความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (ไม่มั่นใจว่าจะกระทบมากน้อยแค่ไหนเมื่อบาทแข็ง)
            

5.5 SABINA
ผลิตสินค้าเอง : นำเข้า
40 : 60
อัตรากำไร ผลิตเอง gpm 43.2 : นำเข้า gpm 55.2
ปิดร้านค้าที่ทำกำไรน้อย หรือไม่ทำกำไร 18 ร้านค้า
เปิดใหม่ 4-5 จุดขาย
ในการขายออนไลน์ เป็นที่ 1 ในทุกแพตฟอร์ม

จากที่ ผบห. แจ้ง บาทแข็งทำให้กำไรสูงขึ้น

q3 ทำรายได้ไม่ได้เพราะฝนตกหนักมาก ตรงนี้อาจมองเป็นเหตุการชั่วคราวได้ แต่ฟ้าฝนมันก็คาดการณ์ได้ยาก

ผบห.มีการคุยด้วยตัวเลขเป็นส่วนมาก ถ้าเข้าใจตัวเลขอัตราส่วนต่างๆดีกว่านี้น่าจะฟังได้เข้าใจกว่านี้

เป็นสินค้าจำเป็น หากการท่องเที่ยวมีเพิ่มมากขึ้น จะส่งผลกับรายได้บริษัท

ในกรณีที่อนาคตบาทจะแข็งขึ้น อาจส่งผลดีก็จริง แต่ในทางกลับกันหมายความว่าเราจะต้องรวมเรื่องค่าเงินเป็นปัจจัยความเสี่ยงด้วย


   
ReplyQuote
(@sunansinee-uthai)
New Member
Joined: 1 year ago
Posts: 1
 

1. ยา สุนันสินี

2. เป้าหมาย 13%

3. หุ้นที่เลือก BCH,CPALL,HMPRO,SABINA,XO(MOSคำนวณจากTrailing P/E จากเวป jitta),SECURE(MOSจากตารางของอาจารย์)

     BCH 70.13% เป็นสินค้าจำเป็น ให้บริการครบทุกsegmentทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีโอกาสเติบโตได้อีกมากเพราะ ได้อนิสงค์จากการท่องเที่ยงเชิงสุขภาพ 

      CPALL -.95% เป็นผู้นำธุรกิจสินค้าปลีกประเภทร้านสะดวกซื้อ มีความได้เปรียบในการแข่งขันสูง มีพันธมิตรครอบคลุมหลากหลายธุรกิจ

      HMPRO 3.18% เป็นผู้นำธรุกิจค้าปลีกประเภทของตกแต่งบ้านและวัสดุก่อสร้าง เป็นศุนย์รวมสินค้าเกี่ยวกับบ้านและวัสดุก่อสร้างครบวงจร

      SABINA 47.27% เป็นสินค้าจำเป็น ครอบคลุมทุกกลุ่มวัย เติบโตอย่างอย่างยืน

      SECURE 13.2%  เน้นรักษาความปลอดภัยทางเทคโนโลยี เทรนด์ูธุรกิจแห่งอนาคต  อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโตสูง

      XO 28.76% เป็นธุรกิจที่สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทย ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล มีคู่แข่งในประเทศน้อยราย มีโอกาสเติบโตได้ในระยะยาว

 


   
ReplyQuote
(@nontavid-k)
New Member
Joined: 1 year ago
Posts: 1
 

1.เอ็กซ์  นนทวิศย์

2.เป้าหมาย 20% ต่อปี

3.หุ้นที่เลือก 10 ตัว ตัวละ 10% ของพอร์ต

- SIS MOS 40% ได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็ง และ การเติบโตของธุรกิจ cloud

- IIG MOS 50% ทั้ง CRM และ ERP on cloud เป็นธุรกิจที่เติบโตสูง ปี 2566 ได้รับประโยชน์จากเงินบาทแข็ง

- D MOS 40% ได้รับประโยชน์จากการเปิดเมือง และ นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา รวมทั้งธุรกิจ Trading จะฟื้นตัวจากร้านทันตกรรมที่มีลูกค้าฟื้นตัว

- DOHOME MOS 20% รายได้ และ กำไรจะฟื้นตัวจากปี 2565 ที่โดนเรื่องราคาเหล็ก และ น้ำท่วม ปี 2566 รายได้จะเติบโตมากกว่า 20% จากสาขาที่เปิดในปี 2565 ramp up ขึ้น และ เศรษฐกิจฟื้นตัว

- BCH MOS 30% ราคาน่าจะลงมารับข่าว Q3/65 ขาดทุนจากวัคซีนไปแล้ว fwd PE ยังต่ำ เมื่อเทียบกับกลุ่มโรงพยาบาล ได้รับผลบวกจากการเปิดประเทศ ภาพการเติบโตระยะยาวยังดูดีจากการขยายโรงพยาบาลจาก 15 แห่ง เป็น 20 แห่ง

- ILINK MOS 40% ธุรกิจ Distribution ได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็ง มี solar cable สินค้าใหม่เติบโตสูง ธุรกิจ EPC มีงานใหญ่เคเบิลใต้น้ำ รับรู้รายได้ในปี 2566 ซึ่งเป็นงานที่มีอัตรากำไรสูง

- NER MOS 50% ราคายางปัจจุบันอยู่ใน Zone ล่างแล้ว fwd PE อยู่ใน Zone ต่ำ ปันผลสูง

- SABINA MOS 30% ได้รับประโยชน์จากเงินบาทแข็ง กำไรขั้นต้นน่าจะดีขึ้น จากการ outsource การผลิตไปจีน บริษัทคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้ดี 

- SPVI MOS 40% PE ต่ำกว่ากลุ่ม ปี 2566 Iphone 15 น่าจะขายดีจากการ major change เติบโตตามสินค้า APPLE ที่กินส่วนแบ่งการตลาดจากยี่ห้ออื่นได้เรื่อยๆ 

- ORI MOS 30% ได้รับประโยชน์จากการเปิดประเทศของจีนในปี 2566 มีการ Spin off บริษัทลูกออกมาเรื่อยๆ อาจได้รับประโยชน์จากการ Rerate PE ในอนาคต


   
ReplyQuote
(@Anonymous 218781)
New Member
Joined: 1 year ago
Posts: 1
 

1. เติ้ล อัครัช

2.เป้าหมาย 15-16%

3. หุ้นที่เลือก CPALL , DOHOME , SECURE เพื่อกระจ่ายความเสี่ยงไปให้หุ้นแข็งแกร่งกับหุ้นโตเร็วและต่างอุตสาหกรรมกัน

- Portion 60% CPALL(ราคาซื้อ 60.5 บาท) MOS 37% Fair P/E 30x

เหตุผลเชิงคุณภาพ

เป็นหุ้นค้าปลีกที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดในประเทศเป็นเจ้าตลาดครอง Market share กว่า 64%+9%ของโลตัส ปลอดภัยไม่มีเจ๊ง ให้คะแนน Business Model + 5 Force Analysis 95/100

ถึงแม้ว่าจะมีภาระหนี้สินเยอะที่กู้มาเพื่อซื้อ MAKRO กับ Lotus ถึง 2 แสนล้านแต่มีความสามารถในการใช้หนี้สูง ภาระต้นทุนทางการเงินยังบดบังกำไรที่แท้จริง แต่หากใช้หนี้ได้หมดแล้วจะกำไรโตอีกมากจากทั้งตัว 7-11 และการเติบโตของเครื่องยนต์ใหม่อย่าง Lotus และ Makro และการขยายสาขาของ 7-11 เอง

ปีหน้าการคาดการณ์นักท่องเที่ยว(โดยเฉพาะจีน)จะไหลเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นจาก 10m คนในปีปัจจุบัน เป็น 20m และ 40m ในปี 2567

ตัวเลข 40m อาจดูเป็นไปได้ยาก แต่คาดว่า 30m น่าจะเป็นปได้ครับ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อ CPALL อย่างมากภายใน 1-3 ปีข้างหน้า

ความเสี่ยงของ CPALL

โนบายรัฐบาล

หากรัฐบาลใหม่มีนโยบายป้องกันการผูกขาดในธุรกิจค้าปลีกซึ่งไม่มีทางเกิดขึ้นกับประเทศนี้!!!

 

สรุป

CPALL เป็นหุ้น Superstock ปลอดภัยไว้ใจได้แถมมีส่วนลดลงมาถึง 37% ให้ซื้อและสามารถยาว 10 ปีเพื่อให้ได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 14-15% ต่อปี

 

- Portion 20% DOHOME(ซื้อ 14 บาท) MOS 16% Fair P/E 30x

เห็ตผุลเชิงคุณภาพ

เป็นหุ้นโตเร็วในกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่มีซึ่งมีลักษณะธุรกิจเป็นทั้ง B2B และ B2C ตอนนี้มี Market share เพียง 3% และขนาดตลาดอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างที่มีขนาด 8 แสนล้าน ยังมีพื้นที่ให้ Dohome แย่ง Market share จากทั้ง Traditional trade และในกลุ่ม Modern trade ด้วยกันเองอีกมาก

ถือว่าเป็นหุ้นโตเร็วที่น่าสนใจเนื่องจากเป็นสิ้นค้า Recurring และ เริ่มมีการขยายไปทาง B2C มากขึ้น

ให้คะแนน Business Model + 5 Force Analysis 74/100

DOHOME มีการขายสินค้าที่เป็น House brand และ Non-House Brand

ตอนนี้สัดส่วนรายได้ของสินค้า House brand คิดเป็น 15.5 และ Non-House Brand 85.5 แต่ผู้บริหารได้มีการตั้งเป้าหมายเน้นเพิ่มสินค้า House Brand ให้มีสัดส่วนรายได้ขึ้นมาเป็น 20% ซึ่งสินค้า House brand นั้นมี GPM มากกว่าสินเค้า Non-House brand จะเป็นเครื่องยนต์ตัวหนึ่งที่จะทำให้ GP ของ DOHOME สูงขึ้นอย่างมาก

ปัจจุบัน DOHOME มีสาขาเพียง 26 สาขา แบ่งเป็นสาขาใหญ่ 16 สาขาย่อย 10 ถือว่ายังน้อยมากเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

กลุ่มคู่แข่งขัน
1) Homepro (114 สาขา)
2) ไทวัสดุ (60 สาขา)
3) Global House (75 สาขา)
4) Home Hub (5 สาขา)
5) Mega Home (14 สาขา)
6) บ้าน & บียอนด์ (7 สาขา)

ทั้งนี้ผู้บริหารตั้งเป้าขยายสาขา Size L ปีละ 5 สาขาเพื่อให้ได้ 36 สาขาภายในปี 2568 แต่สุดท้ายก้มีการปรับการเติบโตลงเหลือปีละ 4 สาขา และมีการ revise แบบแปลนการสร้างสาขา เพื่อลดโครงสร้าง ปรับแบบบางส่วนที่ไม่จำเป็นออก ทำให้สามารถลดค่าก่อสร้างลงได้ 1 ใน 4

ซึ่งความเห็นส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องดีเนื่องจาก DOHOMEปัจจุบันมีภาระเงินกู้สูงมาก การลดสาขา และการลดต้นทุนค่าก่อสร้างได้จะทำให้ดอกเบี้ยจ่ายลดลงด้วย

ปีนี้ DOHOME ถือว่าสามารถรักษา SSSG ได้ดีที่ 16% และสามารถทำยอดขายโตขึ้น 28% ก้จริงแต่ GP เองกลับ 16.2% ลดลงเทียบกับปีก่อนที่ 21.4% เนื่องจากเจอวิกฤติน้ำท่วมทางภาคอีสานทำให้สาขาที่อุบลได้รับความเสียหายและต้องปิดสาขาเป็นเวลานาน ประกอบกับภาวะราคาผันผวนของเหล็กกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูงจากสงครามยูเครน-รัสเซีย

มองภาพไปใน 1-3 ปีข้างหน้าพอจะเห็นปัจจัยหนุนที่จะทำให้ DOHOME โตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในปีหน้าจะมาจากสาขาที่เพิ่งเปิดในปีนี้จะสามารถรับรู้รายได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้นและบวกกับการคาดการณ์ว่าอุตหรกรรมก่อสร้างจะโตขึ้นอีกปีละ 4.9-5.2% จากโครงการ Mega project ของภาครัฐและภาคเอกชน บวกกับการท่องเที่ยวที่กำลังจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว น่าจะเป็นผลทำให้มี demand ของการซื้อสินค้าซ่อมแซมทีพักเพื่อปล่อยเช่านักท่องเที่ยวมากขึ้นอีกด้วย

ความเสี่ยงของ DOHOME

สินค้า Commodity

เนื่องจากสินค้าวัสดุก่อสร้างหลักเป็นเหล็กเส้นชนิดต่างๆ อาจทำให้เจอกับปัญหาความผันผวนของราคา 

การแข่งขันสูง

เนื่องจากคู่แข่งเยอะและเป็นพี่ใหญ่ในตลาดด้วยจำนวนสาขาที่มากกว่า อาจเป็นแรงกดดันต่อธุรกิจได้ หากมีการแข่งขันด้านราคากันอย่างรุนแรง

ภัยธรรมชาติ

อย่างกรณีเช่นปีนี้ที่เกิดน้ำท่วมในจังหวัดอุบล ทำให้ต้องปิดสาขาอยู่เป็นเดือน จะส่งผลต่อรายได้ของบริษัทอย่างมาก

การตั้งเป้าหมายของผู้บริหาร

หากผู้บริหารพลาดเป้า หรือมีการเปลี่ยนเป้าหมายการเติบโตลดลง เราก็อาจเจ็บตัวได้เช่นกัน..

 

สรุป

DOHOME เป็นหุ้น Fundamental ดี มีขนาดคตไกล วัยรุ่นชอบ ที่มี CAGR 20-30% ต่อปี แต่มีความน่ากังวลในเรื่องของเป้าหมายการเติบโตและสินค้า Commodity ที่มีความผันผวนต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดอยู่เสมอ

 

- Portion 20% SECURE(ซื้อ 13.7 บาท) MOS 22% Fair P/E 22-25x

เหตุผลเชิงคุณภาพ

SECURE จัดอยู่ในหุ้นกลุ่มโตเร็ว Business Model เป็นธุรกิจขายอุปกรณ์และบริการด้าน Cyber Security สินค้าที่ขายเป็นสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ 100% จึงอาจมองได้ว่าหุ้นกลุ่ม Cycle ได้ด้วย การขายสินค้าและบริการอยู่ในรูปแบบของ B2B ขายให้ทั้งหน่วยงานภาครัฐและองค์กรระดับใหญ่ และตัวธุรกิจยังมีรายได้แบบ Recurring จาก M&A ที่เป็นในรูปแบบของ Subscription ของการ Maintenance ระบบ Security อีกด้วย แต่ทั้งนี้แนวโน้มการเติบโตสามารถไปทาง SME ได้มากขึ้นอีกเช่นกัน

ด้วยขนาดตลาดปัจจุบัน 13,120 MB ถือว่ากินส่วนแบ่งอยู่เพียง 7% ยังมีพื้นที่ให้เติบโตได้อีกมาก อีกทั้งภาพรวมของอุตสาหกรรม Cyber Security มีการเติบโตสูงถึง 12-15% ต่อปี

ให้คะแนน Business Model + 5 Force Analysis 60/100

ปีนี้ถือว่า SECURE ได้รับผลกระทบของค่าเงินบาทอ่อน เนื่องจากตัวสินค้าเป็นสินค้านำเข้าทำใน GPM หดตัวลงเหลือเพียง 14.5% และยังเจอสภาวะ Chip shortage ทำให้การขายถูก slip ไปซึ่งทำได้รายได้ลดลงมาจากปีก่อนๆ เลยทำให้ภาพรวมของงบการเงินออกมาดูไม่ดีนัก แต่ทางผู้บริหารได้มีการปัญหาเรื่องนี้ด้วยการทำ Forward Contract แบบเต็มจำนวนวงเงินของ PO เพื่อลดความเสี่ยงของการผันผวนทางค่าเงิน ซึ่งจะช่วยทำให้ต้นของสินค้านิ่งลงได้

มองภาพไปใน 1-3 ปีข้างหน้า ผู้บริหารตั้งเป้าโตปีละ15% ซึ่งความคิดเห็นส่วนตัว คิดว่าน่าจะทำได้ เพราะแรงหนุนจากอุตสาหรกรรมที่มีการเติบโต 12-15% ต่อปี แต่ด้วยตัวกฎหมาย PDPA ที่เริ่มจะมีการบังคับใช้อย่างจริงจังในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

และแนวโน้มของการเติบโตของสินค้า IoT ที่ทุกอย่างจะเริ่มเชื่อมต่อสู่โลกออนไลน์ด้วยกันทั้งหมด เชื่อว่าจะเป็นตัวหลักที่ทำให้บริษัทมียอดขายสูงขึ้นได้ก้าวกระโดดในภาพ 5-10 ปี และเมื่อเวลามาถึง SECURE อาจเริ่มมีการ สร้างเครื่องยนต์ใหม่ที่จะสามารถสร้างรายได้ Recurring โดยขายบริการ Cybersecurity ในแบบ Subscription ให้กับกลุ่มลูกค้า B2C ได้อีกด้วย 

ความเสี่ยงของ SECURE

อัตราแลกเปลี่ยน

เนื่องจากเป็นสินค้านำเข้า 100% อาจได้รับผลกระทบต่อต้นทุนของสินค้า

การแข่งขันสูง

มีคู่แข่งขันหลักๆ อยู่ 5-6 เจ้า อาจเกิดการแข่งกันอย่างรุนแรงซึ่งจะส่งผลต่อกำไรของบริษัทหรืออาจทำให้ขาดทุนได้

ภัยจากคู่แข่งรายใหม่

ธุรกิจนี้ใช้ทรัพยากรบุคคล และการนำเข้าสินค้าเป็นหลักถือว่า Barrier to entry ไม่ได้สูงมากนัก เพียงแต่ต้องมีบุคลากรที่ชำนาญเรื่องระบบซึ่งสามารถซื้อตัวกันได้ และด้วยการเติบโตของตลาดที่สูง ทำให้อาจจะมีคู่แข่งรายใหม่ที่สนใจลงมาแย่งชิงส่วนแบ่งกันมากขึ้น

สรุป

SECURE เป็นหุ้นโตเร็วที่กำลังเกาะไปกับกระแสของโลกสมัยใหม่ และอนาคตจะเป็นสิ่งจำเป็นของมนุษย์ ด้วยการเติบโต ปัจจุบันนี้ในไทยเพิ่งเริ่มมี Awareness เรื่องนี้กันไม่กี่ปีเราจึงอาจเห็นการเติบโตที่ 12-15% ต่อปี แต่ใน 3-5 ปีข้างหน้า กฎหมายจะเริ่มพลักดันให้เรื่ืองนี้เป็นมาตราฐานสากลมากขึ้น จะทำให้ SECURE สามารถเพิ่มรายได้จากลูกค้ารายใหม่ๆอีกมากจาก SME ทั้งที่เป็นขายสินค้าและ Subscription จนทำให้สามารถเป็นหุ้นเติบโต 20% ต่อปีได้ครับ คาดว่าพอจะมีภาพถึง 10 ปีครับ


   
ReplyQuote
(@Anonymous 218817)
New Member
Joined: 1 year ago
Posts: 1
 

1. เอิร์น พัณณิตา
2. 12.03% ต่อปี
3. 5 ตัว: TACC, CPALL, SABINA, DOHOME, RPH
4. MOS: TACC 29.10% CPALL 25.70% SABINA 23% DOHOME 16.20% RPH 26.40%

- 10% TACC: MOS 29.10% หุ้นโตกลาง ต้องระวังด้านความเสี่ยงกับคู่ค้า เพราะได้รายได้จาก B2B 93% แต่ก็คิดว่าด้วยการใช้งานร่วมกันมานาน บวกกับการที่ลูกค้าคุ้นเคย อนาคตอาจจะเป็นแบบนี้เรื่อย ๆ ส่วนข้อดีคือโตตาม seven ได้เรื่อย ๆ เลย ประมาณ 4-5% คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อยู่เรื่อย ๆ ขยายสาขาไปต่างระเทศ Lotus และ food court ต่าง ๆ มี vending machine กาแฟของตัวเอง ในอนาคตคาดการณ์ว่าด้วยการกลับมาของเซเว่นและนักท่องเที่ยว การขยายสาขา own branches ได้อีก และ license สามารถทำให้บริษัทเติบโตได้

- 20% CPALL: MOS 25.70% หุ้นโตกลาง เพราะมีส่วนแบ่งตลาดที่สูงอาจทำให้ไม่สามารถเติบโตได้เร็วหรือมากนัก แต่มีความมั่นคงสูง เซฟ ลูกค้าซื้อซ้ำและรอยัล คู่แข่งและสินค้าทดแทนน้อย คาดการณ์ว่าหลังจากเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ บวกนโยบายและเป้าหมายรับนักท่องเที่ยวของรัฐ ยอดขายน่าจะฟื้นตัวและมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

- 10% SABINA: MOS 23% หุ้นโตกลาง เป็นสินค้าจำเป็น เจาะลูกค้าได้ทุกวัย ยังพอเติบโตได้ ส่วนแบ่งทางตลาดยังกลาง ๆ ประมาณ 26% แล้วก็เป็นแบรนด์ที่มาเป็นอันดับหนึ่ง ไม่มีภัยสินค้าทดแทน เพราะทางบริษัทก็ทำทั้งชุดชั้นในปกติ บราปีกนก และที่ปิดจุก ตามยุคสมัยและเทรนด์การแต่งตัว อนาคตน่าจะไม่ได้เติบโตหวือหวา แต่ก็น่าจะมั่นคงพอสมควร

- 30% DOHOME: MOS 16.20% หุ้นโตเร็ว มีแนวโน้มเติบโตสูง ด้วยมีส่วนแบ่งตลาดที่ต่ำอยู่ สามารถขยายสาขาไปได้อีกมาก มีขนาดตลาดที่ใหญ่ ลูกค้าเป็นได้ทั้งผู้ซื้อปลีกและผู้รับเหมาก่อสร้าง มีภัยจากสินค้าทดแทนต่ำ และก็ถือเป็นสินค้าที่ต้องใช้อย่างหนึ่ง เพราะปัจจุบันและในอนาคตก็ต้องมีการก่อสร้างเรื่อย ๆ

- 30% RPH: MOS 26.40% หุ้นโตเร็ว แต่มีความมั่นคงเพราะเป็นการบริการที่จำเป็น เซฟ ภัยจากบริการอื่นทดแทนน้อย มีความโดดเด่นดานอาคารสถานที่และสภาพแวดล้อม ห้องมีหลายระดับ เปิดศูนย์เฉพาะทางที่หลากหลายเพิ่มขึ้น มีส่วนช่วยให้เติบโตได้มากขึ้น มีแผนจะเปิดสาขาในพื้นที่อื่น รวมถึงรีโนเวทโรงพยาบาลเก่า ดึงดูดทั้งคนในประเทศและประเทศลาว


   
ReplyQuote
(@t-pamat1987)
New Member
Joined: 1 year ago
Posts: 1
 

1. ภา ภามาศ

2. เป้าหมาย 12%/ปี 

3. หุ้นที่เลือก 

    MINT  moss 10% โครงสร้างรายได้หลักจากธุรกิจโรมแรม/ร้านอาหาร จุดเด่นส่วนแบ่งตลาด 39% ธุรกิจเป็น B2C ซื้อซ้ำได้เรื่อยๆ ความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยของยุโรป โรคระบาด จะถือระยะยาว 5-10 ปี ให้เศรษกิจและการท่องเที่ยวฟื้นตัว

 

    ORI moss 29% โครงสร้างรายได้หลักธุรกิจคอนโด การเติบโตมีการเปิดโครงการใหม่ Q4 65 8 โครงการ ได้ Backlog        41,000 ล้าน จุดสูงสุดใหม่ ความเสี่ยงเป็น non-recurring และคู่แข่ง  

 

    TACC moss 29% ธุรกิจเติบโตไปกับ 7-11ปั๊มน้ำมันทั้งในและต่างประเทศ ความเสี่ยง ถูกยกเลิกสัญญา รายได้พึ่งพาเซเว่น

อย่างมาก ถ้าโดนยกเลิกสัญญากระทบหนัก 

 

    SPVI moss 46% iPhone 15 เปิดตัวรูปลักษณ์ใหม่ปี 66 5 ปีที่ผ่านมารายได้โตต่อเนื่อง เป็นสินค้าการซื้อซ้ำระดับปานกลาง 1-2 ปี 

 

    RPH moss 26% หุ้น รพ.ในจังหวัดขอนแก่น จำนวนประชากรจังหวัดขอนแก่นมี 1.806 ล้านคน รพ.เป็นสิ่งจำเป็นในชีวิต มีจำนวน 198 เตียง ราคาระดับปานกลางเข้าถึงได้ อัตตราการครองเตียง 70-80%   


   
ReplyQuote
(@Anonymous 218821)
New Member
Joined: 1 year ago
Posts: 2
 

สิท สิทธิชัย
เป้าหมาย 12.66% ต่อปี
หุ้นที่เลือกไว้ 5ตัว
1. CPALL ราคา 66 บาท มี MOS 25.7%
ขายสินค้าแบบ B2C และรับแต่เงินสด เป็นหุ้นแข็งแกร่ง การเติบโต8% ครองตลาดอันดับ1 ไม่มีคู่แข่งการค้าในอนาคต 3-5ปีนี้
มีอัตราการซื้อซ้ำสูง

2. RPH ราคา 6 บาท มี MOS 22.07%
ขายสินค้าแบบ B2C ลูกค้าส่วนใหญ่ชำระเป็นเงินสด มีหนี้สินต่อทุนต่ำ (0.21) เป็นหุ้นเติบโต การเติบโด15% ครองตลาดอันดับ1
มีอัตราการซื้อซ้ำสูงกว่าคู่แข่ง

3. SABINA ราคา 23.3 บาท มี MOS 23.0%
ขายสินค้าแบบ B2C มีหนี้สินต่อทุนค่อนข้างต่ำ (0.48) เป็นหุ้นเติบโต การเติบโด12% ครองตลาดอันดับ2
มีอัตราการซื้อซ้ำสูง

4. NSL ราคา 21.2 บาท มี MOS 29.3%
ขายสินค้าแบบ B2B มีหนี้สินต่อทุนค่อนข้างต่ำ (0.64) เป็นหุ้นเติบโต การเติบโด15%
มีอัตราการซื้อซ้ำสูง

5. XO ราคา 13.2 บาท มี MOS 34.4%
ขายสินค้าแบบ B2B2C ส่งขายต่างประเทศ 99%เน้นยุโรป80% มีหนี้สินต่อทุนต่ำ (0.2) เป็นหุ้นแข็งแกร่ง การเติบโด10%
มีอัตราการซื้อซ้ำสูง


   
ReplyQuote
(@siraphop-aimsaard)
New Member
Joined: 1 year ago
Posts: 2
 

1.เบนซ์ สิรภพ

2.เป้าหมาย 14.24% ต่อปี

3.หุ้นที่เลือก

3.1 DOHOME
- Mos 15%
- เป็นสิ้นค้า Recurring
- มีความสามารถในการแข่งขัน
- การเติบโตสูง (ประมาณปีละ 20-30%)
- เคยทดลองใช้บริการ เปรียบเทียบกันระหว่าง hmpro,ไทยวัสดุ dohome ในพื้นที่เดียวกัน พบว่า dohome มีของให้เลือกมากกว่า
- การเลือกทำเลที่ตั้งของสาขา ดักลูกค้าของทางคู่แข่งได้ดี 
- ขนาดตลาดใหญ่และมาเกตแชร์ยังน้อย 
- อนาคตจะมีลูกค้าเป็น B2C มากขึ้น

3.2 HL
-MOS -7.44% (คำนวนเอง) (รอราคาให้ต่ำกว่านี้ถึงจะซื้อ)
-ลูกค้าเป็น B2C และเป็นสินค้า Recurring
- การเติบโตสูง จากปี 64 มี 27 สาขา ปี 65 ผบห บอกว่าสิ้นปีจะขยาย 11 สาขาแต่ปิดไป 1 สาขา สิ้นปี 65 น่าจะได้ 36 สาขา เพิ่มขึ้น ประมาณ 38% ปี 66 จะขยายอีก 14 สาขา เพิ่มขึ้น ประมาณ 38% 
- ข้อมูลจาก Oppday ผู้บริหารบอก ตลาดยามีมูลค่า 200,000 กว่าล้าน (ประมาณ 220,000) สัดส่วนตลาดของร้านยาประมาณ 20% ของตลาดยา ดังนั้นสรุปโดยประมาณคือ 44,000 ล้านบาท ตลาดวิตามินและผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของไทยในปี 2563 มีมูลค่าประมาณ 66,801.4 ล้านบาท
จากงบการเงินรายได้ส่วนใหญ่ประมาณ 67 % มาจากการขายยาและผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ดังนั้นจึงนำ สัดส่วนตลาดของร้านยา+สัดส่วนตลาดวิตามินและผลิตภัณฑ์อาหารเสริม 44,000+66,801= 110,801 ล้านบาท เลขกลมๆ 100,000
- มาเกตแชร์ยังน้อยมากเมื่อเทียบกับตลาด
- ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสุขภาพและยาจะเพิ่มขึ้น
- เป้าหมายผู้บริหารมีอัตราการเปิดสาขา 40% ของสาขาเดิมที่มีอยู่ ไปอีก 3-5 ปีข้างหน้า

3.3 SUCURE 
- MOS 13%
- มีความสามารถในการแข่งขัน ด้านบุคลากร
- อุตสาหกรรม Cyber Security มีการเติบโตสูง ประมาณ 12-15% ต่อปี
- ปีหน้าได้รับผลกระทบเชิงบวกจากเงินบาทแข็งค่า เพราะรายได้ทั้งหมดเป็นสินค้านำเข้า
- บริษัทมีการเติบโตปีละ 15%
- มาเกตแชร์ยังน้อย ประมาณ 6-7% ยังสามารถเติบโตได้อีก

3.4 RPH (กำลังจะศึกษา)
- moss 26%
- กาเติบโตดี ประมาณปีละ15%
- อยู่ในอุตสาหกรรมที่เติบโต
- โรงบาลเป็นสิ่งจำเป็น

3.5 SPVI (กำลังจะศึกษา)
- moss 46%
- เป็นตัวแทนกลุ่มสินค้าแบรนด์ apple ซึ่งเป็นแบรนด์ที่แข็งกร่ง
- อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง


   
ReplyQuote
(@pensri-champreeda)
New Member
Joined: 1 year ago
Posts: 1
 

1  ศรี  เพ็ญศรี 

2  16% ต่อปี 

3  advanc, ttw,  cpall, rph, dohome, dmt

4 Mos from dashboard  advance - 11.8%, ttw- 36.4%  , cpall - 25.7%  , rph - 26.4%,  dohome- 16.2%

dmt - 40%

5 คุณภาพ  advanc - 81 ; ttw - 74; cpall - 95 ; rph - 79 ; dohome - 72; dmt - 79 ; 


   
ReplyQuote
Page 1 / 3
Share:
Protected by CleanTalk Anti-Spam